"เล็ก คาราบาว" ยืนยัน 'เป็นความจริง' "ยุบวงคาราบาว" เผยประโยคน่าใจหาย

"เล็ก คาราบาว" ยืนยัน 'เป็นความจริง' "ยุบวงคาราบาว" เผยประโยคน่าใจหาย : ทำเอาเหล่าเพื่อชีวิตถึงกับใจหาย เพราะอยู่ๆ "แอ๊ด คาราบาว" หรือ "ยืนยง โอภากุล" นักร้องนำวงคาราบาว ได้ออกมาประกาศยุบวงคาราบาว ระหว่างเล่นในงาน Bom Sincharoen Fanmeet No.4 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่ง น้าแอ๊ด ได้ระบุว่าหลังจากคอนเสิร์ตสุดท้ายของวงคาราบาวในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2567 ทางวง "คาราบาว" จะเลิกวงแล้ว

 

น้าแอ๊ด ได้บอกถึงสาเหตุการยุบวง และเล่าประวัติการเดินทางกว่าจะมาถึงวันนี้ ในบางช่วงบางตอนว่า "เราเป็นอิสระไม่ได้เป็นขี้ข้าใคร ถึงแม้จะอยู่กับ วอร์นเนอร์ มิวสิก ไทยแลนด์ แต่เราไม่ได้เซ็นสัญญา และเขาก็ไม่ได้เอาเปรียบ ตอนนี้ในวงก็มีแต่คนแก่ๆ ป่วยกันแล้ว 4 คนในวงคาราบาว ในเดือนมีนาคม จะมีคอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย 1 เมษายน 67 แล้วก็จะเลิกวงเลยครับ เป็นความจริง เพราะมันไม่ไหวแล้ว มันแก่กันหมดแล้ว 3 วันดี 4 วันไข้ มันถึงเวลาแล้วที่เราต้องปล่อย ยอมรับความจริงว่าเราแก่ แต่เรายังเก๋าอยู่" 

 

นอกจากนี้ น้าแอ๊ด ได้เผยอีกว่า "ส่วนตนเองจะยังคงทำงานเขียนเพลงและทำดนตรีต่อไปร่วมกับนักดนตรีรุ่นใหม่ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายได้มีงานทำ ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ จะไปทำอะไรก็สุดแท้แล้วแต่ละคนเลย" 

 

สำหรับ วงคาราบาว เกิดขึ้นมาระหว่างที่ "แอ๊ด" เรียนอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ร่วมกับ "เขียว กิรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร" และ "ไข่ สานิตย์ ลิ่มศิลา" เป็นการฟอร์มวงเพื่อร่วมประกวดวงดนตรี ซึ่ง "คาราบาว" เป็นภาษาตากาล็อกหรือภาษาพื้นเมืองของฟิลิปปินส์ แปลว่า "ควาย" และมีกำหนดการขึ้นแสดงคอนเสิร์ต 40 ปี คาราบาว ในวันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี  

 

ล่าสุด พี่เล็ก คาราบาว ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องราวการยุบวงคาราบาวระบุว่า "คงได้ทราบข่าวการยุติวงของพวกเรากันบ้างแล้ว ซึ่งเป็นความจริงครับ งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเนาะ สัจธรรมของชีวิตนั้น 'ไม่จากเป็นก็จากตาย' ดังนั้นวันที่ 11 เดือน 11 พศ. 2566 นี้ จะเป็นคอนเสิร์ตใหญ่สุดท้ายของพวกเรา จากนั้นก็คงเป็นงานเล็กๆ ทั่วไปที่รับค้างคากันไว้แต่แรก แต่ก็ไม่กี่งานครับ 

 

จะว่าไปแล้วช่วงหลังมานี้ เราก็ขึ้นเวทีแบบไม่ครบองค์ประชุมมาหลายงานแล้ว ผมเองปีที่แล้วก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งทุกวันนี้ก็ต้องใช้ชีวิตแบบสว.เต็มรูปแบบ คือเลิกดื่มพร่ำเพรื่อ หันมาดื่มเท่าที่จำเป็นจริงๆ อิ อิ

 

ชีวิตก็คงดำเนินต่อไปแหละเนาะ ดั่งที่ผมเคยเรียนท่านแล้วว่า พวกเราไม่ใช่ไม้ใกล้ฝั่ง แต่เป็นไม้ใกล้โรงเลื่อย รอแปรสภาพเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่เป็นประโยชน์ต่อไปครับ 

 

นั่นหมายความว่า ต่อไปนี้ท่านจะได้ฟังงานเดี่ยวของพวกเรามากขึ้น และเรื่องราวชีวิตหลังการเดินทางกับเพื่อนพ้องน้องพี่มาอย่างยาวนานครับ
สวัสดีครับ"
 

ภาพจาก Carabao Official และ Lek Carabao Solo