- 11 ต.ค. 2566
ย้อนฟัง แอ๊ด คาราบาว เปิดใจถึงการยุบวงคาราบาว ในต้นปีหน้า ปิดตำนานกว่า 40ปี วงดนตรีเพลงเพื่อชีวิตเมืองไทย เล่าชัดสาเหตุการตัดสินใจ
หลังจากที่ทาง "แอ๊ด คาราบาว" ประกาศยุบวงคาราบาวในปีหน้าทันที หลังจบจากคอนเสิร์ตของวงคาราบาวครั้งสุดท้าย ในวันที่ 1 เมษายน 2567 โดย ทาง แอ๊ด คาราบาว หรือ ยืนยง โอภากุล ได้เปิดเผย ในช่วงระหว่างเล่นในงาน Bom Sincharoen Fanmeet No.4 พร้อมให้เหตุผลว่า เนื่องจากปัญหาเรื่องสุขภาพของสมาชิกในวง และอายุก็เริ่มมากกันแล้ว
ซึ่งจากงานดังกล่าว จะมาย้อนคลิปช่วงที่ พี่แอ๊ด กล่าวถึงการยุบวงคาราบาวในปีหน้า 2567
โดยใจความคร่าวๆ พี่แอ๊ด คาราบาว กล่าวว่า อย่าง Bootleg ผมควักกระเป๋าเพราะอยากให้น้องๆ ที่ยังไม่แก่เนี่ย อยากจะทำงานต่อ ได้มีงานต่อไป พวกแก่ๆ ก็ปล่อยไป เพราะมันป่วยกันแล้ว 4 คนในวงคาราบาว แล้วจะเลิกในเดือน ในปีหน้า ในเดือนมีนาคม สิ้นมีนาคมเนี่ย จะมีคอนเสิร์ตครั้ง 1 เมษายน 2567 แล้วก็จะเลิกวงเลยนะครับ
เป็นความจริง เพราะมันไม่ไหวแล้ว มันแก่กันหมดแล้ว 3 วันดี 4 วันไข้ ตอนนี้นั่งข้างๆ ผม 2-3 คนนั่งเล่น อีก 2 คนนอนอยู่โรงพยาบาล จะฟื้นแล้วกลับมาเล่น มันถึงเวลาแล้วที่เราต้องปล่อย ปลดปล่อยยอมรับความจริงว่าเราแก่นะครับ แต่เรายังเก๋าอยู่ ใครอยากไปเล่นอะไร ทำอะไรตามสบาย
ส่วนตัวผมก็จะพาน้องๆ เด็กๆ ในวงไปต่อ แล้วก็เจอหลานชายเนี่ยนะครับ ดั้มพ์เพิ่งจะอายุ 18 ก็เป็นมือกีตาร์และทำได้หลายอย่าง ก็ยังทำให้หัวใจผมยังมีความสุขกับเพลง เพราะชีวิตผมเนี่ย ผมไม่ใช่นักดนตรี ผมไม่ใช่มือกีตาร์ แต่ชีวิตผมเป็นนักแต่งเพลง นะครับผมมีความสุขในการแต่งเพลง
วันหนึ่งได้อัดเพลง ได้แต่งเพลง ดูเพลงออกไปสู่สังคมแล้วผมก็นอนหลับ ฝันดีมีความสุข ไม่ใช่เรื่องเงิน ผมควักกระเป๋าทำได้ทุกอย่าง แต่พอได้เงินมา ผมก็เอามาให้น้องๆ ใครอยากได้อะไรซื้อๆๆๆ ให้หมด แล้วครึ่งหนึ่งเอาไปบริจาคให้วัด"
ชมคลิป ช่วง 3.54ชม. ( คลิกที่นี่ )
ด้านความเคลื่อนไหวของ "เล็ก คาราบาว" ปรีชา ชนะภัย ก็ได้มาโพสต์เปิดใจเกี่ยวกับเรื่องการยุบวงคาราบาวว่า
คงได้ทราบข่าวการยุติวงของพวกเรากันบ้างแล้ว ซึ่งเป็นความจริงครับ งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเนาะ สัจธรรมของชีวิตนั้น “ไม่จากเป็นก็จากตาย” ดังนั้นวันที่ 11 เดือน 11 พศ. 2566 นี้ จะเป็นคอนเสิร์ตใหญ่สุดท้ายของพวกเรา จากนั้นก็คงเป็นงานเล็กๆทั่วไปที่รับค้างคากันไว้แต่แรก แต่ก็ไม่กี่งานครับ
จะว่าไปแล้วช่วงหลังมานี้ เราก็ขึ้นเวทีแบบไม่ครบองค์ประชุมมาหลายงานแล้ว ผมเองปีที่แล้วก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งทุกวันนี้ก็ต้องใช้ชีวิตแบบสว.เต็มรูปแบบ คือเลิกดื่มพร่ำเพรื่อ หันมาดื่มเท่าที่จำเป็นจริงๆ อิ อิ
ชีวิตก็คงดำเนินต่อไปแหละเนาะ ดั่งที่ผมเคยเรียนท่านแล้วว่า พวกเราไม่ใช่ไม้ใกล้ฝั่ง แต่เป็นไม้ใกล้โรงเลื่อย รอแปรสภาพเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่เป็นประโยชน์ต่อไปครับ
นั่นหมายความว่า ต่อไปนี้ท่านจะได้ฟังงานเดี่ยวของพวกเรามากขึ้น และเรื่องราวชีวิตหลังการเดินทางกับเพื่อนพ้องน้องพี่มาอย่างยาวนานครับ ...สวัสดีครับ