ดุไม่แพ้ใคร พระเจ้าเสือ กับพระอุปนิสัย ชอบเสวยน้ำจัณฑ์ จับคนโยนให้ฉลามกิน

ดุไม่แพ้ใคร พระเจ้าเสือ กับพระอุปนิสัย ชอบเสวยน้ำจัณฑ์ จับคนโยนให้ฉลามกิน ชอบพระประพฤติผิดพระราชประเพณี...

เรียกว่านาทีนี้เป็นที่พูดถึงกันมาสำหรับ  กรมพระราชวังบวร หรือ พระเจ้าเสือ หนึ่งในตัวละคร พรหมลิขิต ที่อ้างอิงจากบุคคลจริงในประวัติศาสตค์ ทั้งนี้ตามพระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ระบุ พระเจ้าเสือเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอในสมเด็จพระเพทราชา ส่วนพระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ฉบับตัวเขียน ระบุเป็นพระราชโอรสลับในสมเด็จพระนารายณ์มหาราชกับพระสนม ซึ่งเป็นพระราชธิดาในพญาแสนหลวง เจ้าเมืองเชียงใหม่

 

ดุไม่แพ้ใคร พระเจ้าเสือ กับพระอุปนิสัย ชอบเสวยน้ำจัณฑ์ จับคนโยนให้ฉลามกิน

โดยพระอุปนิสัยที่เป็นที่เลื่องลือในความดุของพระเจ้าเสือนั้นตาม พระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)  กล่าวว่า  "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพอพระทัยเสวยน้ำจัณฑ์ แล้วเสพสังวาสด้วยดรุณีอิตถีสตรีเด็กอายุ 11-12 ปี ถ้าสตรีใดเสือกดิ้นโครงไป ให้ขัดเคือง จะลงพระราชอาชญาถองยอดอกตายกับที่ ถ้าสตรีใด ไม่ดิ้นเสือกโครงนิ่งอยู่ ชอบพระอัชฌาสัย พระราชทานบำเหน็จรางวัล

 

ดุไม่แพ้ใคร พระเจ้าเสือ กับพระอุปนิสัย ชอบเสวยน้ำจัณฑ์ จับคนโยนให้ฉลามกิน

 

"ประการหนึ่ง ถ้าเสด็จไปประพาสมัจฉาชาติฉนากฉลามในชลมารคทางทะเลเกาะสีชังเขาสามมุขแลประเทศที่ใด ย่อมเสวยน้ำจัณฑ์พลาง ถ้าหมู่พระสนมนิกรนางในแลมหาดเล็ก ชาวที่ทำให้เรือพระที่นั่งโคลงไหวไป มิได้มีพระวิจารณะ ปราศจากพระกรุณาญาณ ลุอำนาจแก่พระโทโส ดำรัสสั่งให้เอาผู้นั้นเกี่ยวเบ็ดทิ้งลงไปกลางทะเล ให้ปลาฉนากฉลามกินเป็นอาหาร

"ประการหนึ่ง ปราศจากพระเบญจางคิกศีล มักพอพระทัยทำอนาจารเสพสังวาสกับภรรยาขุนนาง แต่นั้นมาพระนามปรากฏเรียกว่า พระเจ้าเสือ" ขณะที่พระราชพงศาวดารกรุงสยาม จากต้นฉบับของบริติชมิวเซียมบันทึกไว้ทำนองเดียวกันว่า

 

ดุไม่แพ้ใคร พระเจ้าเสือ กับพระอุปนิสัย ชอบเสวยน้ำจัณฑ์ จับคนโยนให้ฉลามกิน
 

"ครั้งนั้น สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินมีพระราชหฤทัยกักขฬะ หยาบช้า ทารุณ ร้ายกาจ ปราศจากกุศลสุจริต ทรงพระประพฤติผิดพระราชประเพณี มิได้มีหิริโอตัปปะ และพระทัยหนาไปด้วยอกุศลลามก มีวิตกในโทสโมหมูลเจือไปในพระสันดานเป็นนิรันดร์มิได้ขาด แลพระองค์เสวยน้ำจัณฑ์ขาวอยู่เป็นนิจ แล้วมักยินดีในการอันสังวาสด้วยนางกุมารีอันยังมิได้มีระดู ถ้าและนางใดอุตส่าห์อดทนได้ก็พระราชทานรางวัลเงินทองผ้าแพรพรรณต่าง ๆ แก่นางนั้นเป็นอันมาก ถ้านางใดอดทนมิได้ไซร้ ทรงพระพิโรธ และทรงประหารลงที่ประฉิมุราประเทศให้ถึงแก่ความตาย แล้วให้เอาโลงเข้ามาใส่ศพนางนั้นออกไปทางประตูพระราชวังข้างท้ายสนมนั้นเนือง ๆ และประตูนั้นก็เรียกว่า ประตูผีออก มีมาตราบเท่าทุกวันนี้

 

ดุไม่แพ้ใคร พระเจ้าเสือ กับพระอุปนิสัย ชอบเสวยน้ำจัณฑ์ จับคนโยนให้ฉลามกิน

 

"อยู่มาครั้งหนึ่ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จด้วยพระชลพาหนะออกไปประพาส ณ เมืองเพชรบุรี และเสด็จไปประทับแรมอยู่ ณ พระราชนิเวศน์ตำบลโตนดหลวง ใกล้ฝั่งพระมหาสมุทร และที่พระตำหนักนี้เป็นที่พระตำหนักเคยประพาสมหาสมุทรมาแต่ก่อนครั้งแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรบรมราชาธิราชบพิตรเป็นเจ้านั้น และสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินก็เสด็จด้วยพระที่นั่งมหานาวาท้ายรถ แล่นไปประพาสในท้องพระมหาสมุทรตราบเท่าถึงตำบลเขาสามร้อยยอด และทรงเบ็ดตกปลาฉลามและปลาอื่นเป็นอันมาก แล้วเสด็จกลับมา ณ ตำหนักโตนดหลวง และเสด็จเที่ยวประพาสอยู่ดังนั้นประมาณ 15 เวร จึ่งเสด็จกลับยังกรุงเทพมหานคร"

 

ดุไม่แพ้ใคร พระเจ้าเสือ กับพระอุปนิสัย ชอบเสวยน้ำจัณฑ์ จับคนโยนให้ฉลามกิน