- 22 ต.ค. 2566
ล่าสุดทางด้าน “รอมแพง” ได้ออกมาไขข้อสงสัยละครเรื่อง “พรหมลิขิต" หลังเจอดราม่าคนไทยสมัยอยุธยาไม่กินหมูกัน
เรียกได้ว่ากระแสออเจ้ากรุงศรีอยุธยากลับมาฟีเวอร์อีกครั้ง หลังละคร พรหมลิขิต ลงจอไปได้เพียง 2 EP. แต่ต้องบอกเลยว่ากระแสตอบรับล้นหลามทั่วบ้านทั่วเมือง
แต่ความดังก็มักมากลับความดราม่า โดยใน EP.2 พรหมลิขิต ฉากกินหมูกระทะ ซึ่งในโลกออนไลน์ก็มีการถกเถียงกันว่า
คนไทยสมัยอยุธยาไม่...หมูครับ เพราะคนไทยทำระบบปศุสัตว์ไม่เป็น จับปลาจับกุ้งในแม่น้ำแดกง่ายกว่า ตังค์ก็ไม่ค่อยมี จะเอาตังค์ที่ไหนไปซื้อหมูจากพวกเจ๊ก จะเลี้ยงไว้ล้มหมูแดกเองก็ไม่คุ้มเพราะครอบครัวเดียวกินหมูทั้งตัวไม่หมด จะได้แดกสัตว์บกใหญ่ๆ ทีต้องรองานบุญล้มกันเป็นตัวแล้วเลี้ยงคนจำนวนมาก พวกแดกหมูมีแต่เจ๊กครับ ลองคิดง่ายๆ คิดออกไหมว่าอาหารไทยสมัยก่อนจริงๆ มีอะไรที่ทำจากเนื้อหมูบ้าง
ซึ่งทางด้าน รอมแพง ผู้เขียนนวนิยายเรื่อง พรหมลิขิต ได้เคยโพสต์ข้อความดักดราม่าเอาไว้ตั้งแต่ 2561 โดยได้โพสต์ข้อความเอาไว้ว่า เกรงว่าต่อไปจะมีการพูดถึงเนื้อหมูในอยุธยาว่าไม่มี เลยจะออกมาบอกไว้ก่อนนะคะว่า ในกรุงศรีอยุธยามีเนื้อหมูขายที่ ย่านในไก่ ตลาดน้อยเป็นย่านของคนจีนที่นิยมฆ่าและกินเนื้อหมู ซึ่งที่นั่นจะมีขายทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อเป็ด นะคะ มีบันทึกไว้ในพงศาวดารในเรื่องของภูมิสถานในสมัยกรุงศรีอยุธยา เลยแต่งให้นางเอกไปซื้อหมูที่ตลาดนี้
คนจีนเข้ามาในเมืองไทยตั้งแต่สมัยไหนไม่แน่ชัดแต่สมัยสุโขทัยก็ได้มีการนำเข้าช่างจีนมาทำเครื่องปั้นดินเผาแล้วทำให้เกิดเตาทุเรียงในสมัยนั้น สมัยพระบรมไตรโลกนาถ ซึ่งเป็นช่วงก่อนหน้าสมัยพระนารายณ์ราว 200 กว่าปีก็มีกรมท่าซ้าย ที่มีพระยาโชฎึกราชเศรษฐี ซึ่งเป็นคนจีนคุมทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวกับจีนที่เข้ามา เมื่อมีชุมชนชาวจีนหมูพันธุ์ที่จีนนิยมกินจึงน่าจะถูกนำเข้ามาด้วย ดังนั้นจึงสันนิฐานได้ว่าเนื้อหมูมีมานานแล้วค่ะ
ในส่วนของข้อเท็จจริงเรื่องอาหารที่ชาวไทยสมัยกรุงศรีอยุธยานิยมกินนั้นมีบันทึกของบาทหลวงเล่าไว้ว่าจะนิยมกินปลาเพราะหาง่าย เนื้อหมูนี่ถือว่าหายากค่ะ และเป็นสัตว์ใหญ่คนไทยไม่นิยมฆ่ากินเพราะกลัวบาป"