- 12 พ.ย. 2566
ให้โอกาสถึงสิ้นเดือนนี้ ษา วรรณษา - อาท รณชัย เดือด ขีดเส้นตายคนสนิทรีบเอารถมาคืน แถมคดียักยอกทรัพย์ธุรกิจน้ำพริก เสียหายกว่า 5 แสนบาท
12พ.ย.66 ที่สน.สายไหม "ษา"วรรณษา ทองวิเศษ ดารานักแสดง นางงาม และ อาท รณชัย ธนากฤต พาณิชตระกูล แฟนหนุ่ม เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ณัฐนันท์ ม่วงงาม รอง ผกก.(สอบสวน) สน.สายไหม เพื่อสอบปากคำหลังเดินทางเข้าแจ้งความกับ 2 สามีภรรยาคนสนิท ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ หลังให้เงินลงทุนทำธุรกิจน้ำพริก แต่กลับไม่นำกำไรที่ได้มาแบ่ง ซ้ำยืมเงินไม่คืน เอารถไปใช้ยังไม่จ่ายเงินดาวน์ให้สักบาท เป็นเวลาร่วมปี รวมๆความเสียหายเกินครึ่งล้าน
ษา วรรณษา กล่าวว่า วันนี้มาให้ปากคำเพิ่มเติมซึ่งมีการแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการถูกยักยอกเงินธุรกิจน้ำพริก ซึ่งยังมีประเด็นที่ยังไม่ให้ปากคำในเรื่องรถเบนซ์ รุ่นเอ 200 ที่ให้ภรรยาเขาไปใช้ก่อน แต่ไม่สามารถนำรถไปจัดไฟแนนซ์ได้เนื่องจากมีการติดบูโร
ต้องบอกก่อนว่ารถคันนี้เป็นของเพื่อนที่มีปัญหาทางการเงินนำมาให้เราดูแล ผ่อนต่อหรือหาคนมาซื้อ ซึ่งมีการตกลงทำสัญญากันโดยระบุเงินดาวน์จำนวน 120,000 บาท แล้วให้เขาไปผ่อนต่อกับไฟแนนท์เองเดือนละ 6,444 บาท 36 งวด ส่วนเงินดาวน์พร้อมแล้วค่อยเอามาให้
จนถึงตอนนี้เวลาผ่านไปร่วมปีก็ยังไม่ได้เงินดาวน์ พอสอบถามไปอ้างว่ามีเงินผ่อนรถแต่ไม่มีเงินดาวน์ให้ ซึ่งถ้าไม่มีให้ก็เอารถมาคืนตอนดีกันช่วยกันได้หมดแต่ตอนนี้เขาไม่ได้ดีกับเราแล้ว เขาไม่ได้รักเราเหมือนเดิมแล้ว เราจึงอยากได้ของๆเรากลับคืน ยืมไปก็เอามาคืน
ส่วน อาท รณชัย ระบุว่า การขอรถคืนก็เพราะเขามีการยักยอกเงินของเราก่อน โดยก่อนหน้านี้มีการชักชวนมาทำธุระกิจน้ำพริกภายใต้ชื่อ " น้ำพริกป้าแว่น by คุณษา " ประมาณปีกว่า โดยเขามีหน้าที่จัดการบริหารธุระกิจน้ำพริก ตั้งแต่เริ่มสั่งผลิต นำออกขายตามงานอีเว้น และขายทางสื่อโซเชียล ซึ่งเราลงทุนทั้งหมด เขาแค่ลงแรง กำไรก็แบ่ง 50-50
กระทั่งปลายเดือนกันยายน 2566 เราไม่ได้รับเงินส่วนแบ่ง ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนลงทุนเองทั้งหมดร่วม 2 แสน แต่ได้รับกลับมาเพียง 10,200 บาท เมื่อสอบถามทางโรงงานทราบว่าเขาได้ไปขอเครดิตในการนำน้ำพริกออกมาขายก่อน ไม่ทราบว่าเงินที่เราให้ไปจ่ายค่าน้ำพริกและกำไรที่ได้มานำไปใช้ทำอะไร
ที่ผ่านมาหลังถูกจับได้ว่ามีการยักยอกเงิน กลับไม่มีการติดต่ออะไรกับเราเลยบล็อคทุกช่องทาง ทักไปอ่านแต่ไม่ตอบ ตั้งแต่ 9 ตุลาคม ตอนนี้ความเสียหายที่เกิดขึ้นประกอบด้วยเงินดาวน์ 120,000 บาท รวมเงินที่ลงทุนธุรกิจน้ำพริกประมาณ 2 แสน ยังไม่รวมผลกำไรจากการขายน้ำพริก และเงินที่ยืมไป รวมกว่า 5 แสนบาท
ในส่วนคดีตอนนี้ได้มีการดำเนินการในส่วนของการแจ้งความในคดียักยอกทรัพย์ธุระกิจน้ำพริก ส่วนเรื่องรถเราให้โอกาสเข้ามาพูดคุย และยังไม่ได้แจ้งความ หรือจ้างทนายในเรื่องนี้ เปิดโอกาสให้แล้วแต่ไม่มาพูดคุย หากเป็นไปได้ก็ให้โอกาสสุดท้ายถึงสิ้นเดือนนี้ ให้เอารถมาจอดคืนที่สน.สายไหม จะมาอ้างไม่รู้จะคืนที่ไหน ก็ซื้อจากเราก็ต้องมาคืนเราจะไปคืนคนอื่นได้ยังไง ยืนยันจะไม่ดำเนินคดีเกี่ยวกับรถใดๆทั้งสิ้น หากนำรถมาคืน อย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก ความจริงก็คือความจริงพูดสั้นๆก็ได้ใจความแล้ว
ด้าน พ.ต.ท.ณัฐนันท์ ม่วงงาม รอง ผกก.(สอบสวน) สน.สายไหม ระบุว่า เบื้องต้นหลังสอบปากคำผู้กล่าวหาแล้วก็จะเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบถามข้อเท็จจริง หากทั้งคู้จะประสงค์จะเจรจาก็จะเป็นตัวกลางให้