- 25 ธ.ค. 2566
นักแสดงชื่อดัง "บูม สุภาพร" แชร์ประสบการณ์ "ป่วยแพนิก" หลังรักษามานาน 6 ปี ดีใจตอนนี้หายเป็นปกติแล้ว พร้อมแนะวิธีดูแลตัวเอง
หลายคนรู้จักกันดีสำหรับ "บูม สุภาพร" ซึ่งล่าสุด เจ้าตัวได้ออกมาโพสต์คลิปแชร์ประสบการณ์ "ป่วยโรคแพนิก" พร้อมแนะวิธีการรักษาและดูแลตัวเอง โดยหลังจากที่รักษามานานถึง 6 ปี เจ้าตัวก็หายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับให้กำลังใจผู้ที่ป่วยโรคนี้อยู่
โดยทางด้าน บูม สุภาพร เล่าประสบการณ์ดังกล่าวผ่าน TikTok @b_boomm ระบุ "บอกกล่าว อยากให้ฟังค่า อาจจะนานหน่อย แต่ว่า อยากบอกเล่าประสบการณ์ที่ชั้นสู้กับ #แพนิค มา… #ซึมเศร้า #ความรู้"
โดยทางด้าน สาวบูม สุภาพร เผยว่า "บูมหายเป็นแพนิกแล้วนะทุกคน บูมรักษามา 6 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 60 มาเล่าจุดเริ่มต้นก่อนที่จะรู้ว่าตัวเองเป็นแพนิกค่ะ คือเริ่มแบบไม่มั่นใจตัวเอง เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเจอภาวะกดดันไม่ได้ เมื่อ 6 ปีที่แล้ว รู้สึกว่าสั่นอยู่ตลอดเวลา มันเริ่มกระทบกับการทำงาน จนวันหนึ่งเกิดอาการกดดันมาก รู้สึกว่ากดดันจังเลย หายใจไม่ได้เลย จนสุดท้ายบูมเป็นลมไปเลย มือเท้ามันเย็นไปเลยทั้งตัว
ตอนแรกบูมเป็นหัวใจเต้นผิดจังหวะ ก็เลยไปหาคุณหมอหลังจากทำงานเสร็จ บังเอิญว่าเป็นคุณหมอที่รู้จัก คุณหมอก็ตรวจคลื่นหัวใจ ผลออกมาทุกอย่างเป็นปกติ คุณหมอก็เลยบอกว่าบูมลองไปปรึกษาจิตแพทย์ไหม เราก็เดินข้ามแผนกไปหาจิตแพทย์ ไปถึงก็ได้นั่งคุย เครียดอะไรยังไงบ้าง แล้วก็ปรึกษาคุณหมอ เราอาจจะเป็นเหมือนกึ่งซึมเศร้านะ แล้วก็ให้ยามา เราก็ถามว่าเอฟเฟกต์ของยาเป็นยังไง อันนี้สำคัญมากนะทุกคน เวลาเราจะทานยาอะไรเข้าไป เอฟเฟกต์ของยานั้นมันมีอะไรยังไงบ้าง
คุณหมอก็บอกว่าเขาให้มาทาน 2 อาทิตย์ ทานไปอาจจะมีความรู้สึกที่เราต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษระวังอาจจะรู้สึกระวังการอาจจะอยากทำร้ายร่างกายตัวเอง ด้วยความตอนนั้นเราก็กลัวว่าถ้าเราทำร้ายตัวเราเอง แล้วถ้าเราเป็นแผลเราจะทำยังไงถ้าเราไม่สวย ถ้าถึงขั้นหนักขึ้นแล้วพ่อแม่เราจะรู้สึกยังไง ก็เลยเลือกที่จะไม่กินยา เราก็ไปหาคุณหมอแล้วบอกว่าเอายามาคืนหนูไม่กิน เพราะว่าหนูกลัวเจ็บ
คุณหมอเขาก็เลยประเมินใหม่อะไรแบบนี้คงเป็นแพนิคแล้วแหละ บูมก็เลยรู้แล้วว่าบูมเป็นแพนิค ก็เลยไปหาคุณหมออีกท่านหนึ่ง ซึ่งบูมีพี่ที่เป็นแพนิคเขารักษาอยู่ ก็เลยย้ายไปรักษากับคุณหมอท่านนี้นะคะ ก็คือเป็นคุณหมอปัจจุบันที่บูมรักษามา 6 ปีแล้ว
แล้วพอรักษาไปเสร็จสักประมาณปีสองปีบูมก็หยุดยาไปเอง เพราะคิดว่าตัวเองหายแล้วช่วงโควิดนี่แหละ คิดว่าตัวเองหายแล้ว ปรากฏว่าโควิดมามีภาวะเครียดใดๆ กลับมา ปรากฏว่ากลับมาอีกแล้วบูมก็กลัวว่าจะเป็นแบบเดิมอีกก็เลยไปหาหมอ คุณหมอก็เลยบอกว่า จริงๆ แล้วการที่เราหยุดยามันต้องค่อยๆ ลดโดส ซึ่งจริงๆ ตอนนี้บูมน่าจะหยุดได้แล้วนะทุกคน แต่ก็ยังแบบ ใจไม่กล้าพอเพราะว่าเราเคยเจอเหตุการณ์ที่เราหยุดไปแล้วแล้วมันกลับมา
ดังนั้นก็คือขั้นตอนในการรักษา คือบูมรักษามา 6 ปีแล้ว ตอนนี้โอเคมาก ไม่มีภาวะใดๆ แล้ว คุณหมอก็บอกเลยว่าเคสบูมมันก็ ตั้งแต่ประมาณสองปีแรกแล้ว ถ้ากูไม่หยุดยาแบบอัตโนมัติของตัวเอง ดังนั้นเราก็ต้องกินยาตามที่คุณหมอสั่ง ใครที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังเผชิญโรคนี้อยู่จริงๆ มันรักษาหายได้ ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ที่ใจของเราแทบจะแบบ 100% เลยก็ว่าได้และการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ แล้วก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนด้วย ใครที่กำลังเป็นแพนิครักษาให้หายให้ได้ คุณภาพชีวิตของเราก็จะกลับมาดียิ่งขึ้นนะคะ"