- 01 พ.ค. 2567
"จูน กษมา" แอบกังวล "พระเปิ้ล นาคร" บวชไม่ยอมสึก หลังเดินทางไปศึกษาพระธรรม ที่ประเทศศรีลังกา กลัวบาปจนไม่กล้าถาม
จากกรณีที่พิธีกรและนักแสดงรุ่นใหญ่ เปิ้ล นาคร ศิลาชัย ได้ตัดสินใจบวชเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งได้ฉายาทางธรรมว่า "นาคโร" และได้เดินทางไปศึกษาพระธรรมที่ประเทศศรีลังกา ซึ่ง พระเปิ้ล ได้เดินทางกลับมาประเทศไทยแล้วเรียบร้อย โดยมีกำหนดสึกวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลา พระเปิ้ล นาคร ไม่ได้สึกตามกำหนด
ล่าสุดทาง จูน กษมา ภรรยาของ พระเปิ้ล นาคร ได้ออกมาเปิดใจเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2567 โดยระบุว่า "คืออยากถามเหมือนกัน แต่เขาบอกว่าห้ามถาม มันเป็นคำถามที่อยากถามมาก แค่เขาบอกว่าถ้าถามแล้วบาปนะ ว่าจะสึกเมื่อไหร่ เราก็เลยแบบไม่รู้จนถึงตอนนี้ว่าหลวงพี่จะสึกเมื่อไหร่"
จริงๆกำหนดสึกตั้งแต่วันจันทร์แล้ว แต่อยู่ดีๆเมื่อวานก็ โยมจูนหลวงพี่ยังไม่สึกนะ เราก็ อ๋อค่ะ ก็ต้องหาฤกษ์สึกใหม่ จริงๆจูนมารู้ก่อนหลวงพี่บวช 2 อาทิตย์ คือหลวงพี่เขาได้ไปคุยกับพระที่วัดเทพศิรินทร์ไว้ แต่พอหลวงพี่อยากบวชเราก็ไม่ได้ขัดอะไร อยากบวชก็บวช แต่ความจริงต้องมี ออก้า กับ ออกู๊ด บวชด้วย 3 คนพร้อมกันผู้ชาย แต่พอเอาเข้าจริงออก้าไม่ยอมบวช บอกว่าไม่อยากโกนคิ้วเดี๋ยวเพื่อนล้อ ถ้าสังเกต 2 คนขลิบผมแล้ว แต่ถึงเวลาก็ไม่ยอมบวช
คือเด็กเขาไม่ได้อะไรมากมาย แค่ถามว่าแม่ออก้าจะแข่งเจ็ตสกีวันศุกร์นี้ ใครจะซ้อมให้ออก้า ก็เลยบอกว่าแม่ เดี๋ยวแม่เติมเกมให้ฉ่ำเลยค่ะ เราก็ไม่รู้ ไม่กล้าถามหลวงพี่ว่าจะสึกไหม หรือยังไง ซึ่งคุยกันน้อยมากเลยค่ะ ไม่กล้าคุยด้วย แล้ววันนั้นพระ 76 รูปกลับมา คนเยอะมากไม่ได้พูดคุยเลย ไลน์ก็คุยกันไม่ได้อยู่แล้ว มีแค่เมื่อเช้าไปตักบาตรหลวงพี่ ก็พยายามมองตาหลวงพี่ว่าจะสึกไหม หลวงพี่ก็ไม่พูดอะไร กลับบ้านเถอะโยม เราก็อ้า ยังไม่สึก
หลวงพี่ก็น่าจะมีความสุขในรสพระธรรม ในใจงานเยอะมากนะหลวงพี่ อย่างที่บอกว่าถามไม่ได้ เขาบอกว่าห้ามผ่านนะ แล้วนี่เราเป็นภรรยา เราจะลำบากมากนะ แต่ในใจก็คิดว่าหลวงพี่ต้องกลับมานะมาดูลูกแข่งเจ็ตสกี วันศุกร์นี้ซึ่งก็เหลือแค่สองสามวัน เราก็พยายามมองตาอยู่ว่าจะสึกไหม ซึ่งหลวงพี่ก็เปลี่ยนไป ช้าลงสำรวมมากขึ้น พูดคุยกันน้อยมากยังจับใจความอะไรไม่ได้เลย ก็ถ้าหลวงพี่ยังอยากอยู่ในทางธรรมเอาให้เต็มที่ อย่างน้อยก็ได้บุญของเขา ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง