- 23 พ.ค. 2567
"ไก่ วรายุฑ" อดีตผู้จัดละครดัง เปิดใจล่าสุดปมเหตุสะบั้นรักแตกหักนายเก่า? ไร้งาน 4 ปี ต้องประกาศขายสมบัติเก่า
เรียกว่าก่อนหน้านี้รุ่งเรืองสุดๆ สำหรับอดีตผู้จัดละครดัง ไก่ วรายุฑ ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการคนดังนั่งเคลียร์ ที่มี อาจารย์ยิ่งศักดิ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ถึงปมแตกหักนายเก่า จนไร้งาน 4 ปี ต้องเร่ขายสมบัติ?
โดย ไก่ วรายุฑ เผยว่า 4 ปีไม่ได้ทำละคร เกิดวิกฤต ตัวเองอาจแก่เกินไป อาจโบราณเกินไป วิสัยทัศน์ไม่ตรงเจ้าของช่อง จริตไม่ตรงกัน งานที่เสนอไปไม่ชอบใจ หรือไม่ถูกใจกับเจ้าของช่องกับช่อง เลยไม่ได้ทำ
สภาวะเศรษฐกิจถดถอยด้วยไหม ก็เป็นไปได้ ตอนนี้เศรษฐกิจแย่ลง โซเชียลมากขึ้น วงการทีวีก็ซบเซาลงบ้าง แต่ซบเซาเพื่อ ยิ่งซบเซาก็ยิ่งต้องกระแทกๆ ให้ตื่น ยิ่งซบยิ่งแย่ ไม่มีคำว่าตายในวงการทีวี ต้องอยู่ให้ได้ 4 ปีเหมือนคนตกงาน ก็คิดเหมือนกัน ว่าทำไมไม่มีละครอนุมัติ ต้องถามตัวเอง อาจเชยไปหรือล้าหลังไป
เมื่อถามว่าทำไมไม่ย้ายช่อง มีใครชวนไหม? ไก่ วรายุฑ ตอบว่า ชวนสิคะ (อ.ยิ่งศักดิ์ : ช่อง8) ก็ไม่แน่ ต้องลุ้นค่ะ
เมื่อถูกถามว่าเป็นไปได้ไหมเราเป็นคนเวอร์ไป จัดอะไรก็ต้องใหญ่โต ขี่ช้างจับตั๊กแตน ใช้เงินเป็น 10 ล้าน 20 ล้าน ละครเรื่องหนึ่ง ช่องไหนเขาจะรับมือไหว?
ไก่ วรายุฑ ก็ตอบว่า โอ้ย ทุกอย่างต้องปรับตามสถานะ ต้องปรับตามเรื่องราว ปรับตามนโยบาย เขาให้อะไรมาเราก็ทำอย่างนั้น ไม่ใช่ตะบี้ตะบันเอาความคิดเราเป็นใหญ่อย่างเดียว อย่างน้อยเป็นลูกจ้างเขา ต้องทำตามความต้องการเขา ให้ 8 บาทก็ทำ 8 บาท ให้ 10 บาทก็ทำ 10 บาท เราทำตามราคาเนื้อผ้า ละครเรื่องนึงอยู่ที่แนวเรื่อง ถ้าไม่เวอร์วังอลังการ ใช้เงินไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเวอร์วัง บ้านเป็นเศรษฐี รวยระฟ้า ค่าเช่ามันก็แพง ละครเรื่องนึงเป็น 10 ๆ ล้านค่ะ ไม่ใช่ดิฉันคนเดียว ใครๆ ก็เป็นแบบนี้ เดี๋ยวนี้ถึคงต้องทำตามนโยบายเขาไง เขาให้เราทำน้อยเราก็ทำน้อย ให้เราทำมากเราก็ทำมาก
ปีนี้อายุ 70 แล้ว ไม่ได้คิดว่าอายุมากไปสำหรับวงการบันเทิง ไม่ใช่แก่กะโหลกกะลา แก่อย่างมีคุณค่า แก่อย่างมีสมอง เรามีสิ่งที่มีอยู่แล้ว เอาสิ่งใหม่ๆรอบตัวมาผสมกับสิ่งที่มี ทำงานกับเด็กรุ่นใหม่ได้ ทำกับเด็กๆ กระปรี้กระเปร่า ดูสดใส ทำกับคนรุ่นเดียวกันอย่าเลย เบื่อ
เมื่อถูกถามว่าเคยเป็นหนึ่ง เคยเริ่ดมากในวงการผู้จัด วันนี้รู้สึกเสียใจไหม ไก่ วรายุฑ ได้ตอบว่า ไม่เสียใจ แต่รู้สึกเสียดายเวลา ที่เขาทิ้งให้เราไม่ได้พัฒนาสมองตั้ง 3-4 ปี เราคิดว่าเราไม่ได้ทำงาน เราเสียดายเวลามากกว่า เราไม่ใช่คนเดียวที่ไม่มีงาน ทุกคนรู้อยู่แล้ว สถานการณ์โซเชียลมาแย่งสิ่งที่เราเคยมีไปหมด เราก็ต้องยอมรับ มีคนบอกว่าให้ทำละครแนวตั้งแนวนอน ก็อยากทำเหมือนกัน ต้องดูว่าใครจะกรุณาให้เราทำ”
เมื่อถามว่าสนิทกับผู้ใหญ่ที่ช่อง มีอะไรหมางใจ ไปอีโก้เชิดใส่เขาเลยไม่ปราณีหรือเปล่า ไก่ วรายุฑ ตอบว่า เป็นคนไม่อีโก้ แต่บางครั้งเราอาจจะพูดอะไรไม่ถูกใจเขาก็ได้ อะไรที่ออกจากปากไก่แล้ว ไก่พูดเอง ออกจากปากไม่กลัว เป็นความผิดก็ผิดเรา ไม่ได้ผิดคนอื่น พูดอะไรอาจไม่เข้าหูเขาเราก็ไม่สนใจ ทุกอย่างเป็นความคิดของเรา เราเป็นคนละเอียด ทำงานด้วยความตั้งใจ กลายเป็นจู้จี้จุกจิก เราทำอะไรด้วยความรักไง เรารักงานทุกสิ่งของเรา ทำออกมาด้วยหัวใจ กำลังกาย กำลังใจเรา ละเอียดเกินไปไหมไม่รู้ อยู่ที่มุมมอง แต่เราเป็นคนตั้งใจทำงาน
ส่วนที่ขายสมบัติทีละชิ้นตกอับเหรอ? ไก่ วรายุฑ ตอบว่า ตกอับ ไม่มีจะกิน เลยต้องขายสมบัติที่มีอยู่ เป็นสมบัติที่เราเก็บหอมรอมริบกว่าจะได้เท่านี้ ต้องขายเพื่อความอยู่รอด เอาเงินตรงนั้นอาจเอามาทำละคร หรือสร้างสิ่งที่เรารักต่อไปก็ได้
เมื่อถามว่าประกาศขายบ้านหลังนั้นที่เป็นสตูดิโอ 100 ล้านเหรอ? ไก่ วรายุฑ ตอบว่า 150 ล้าน (อ.ยิ่งศักดิ์ : มีคนซื้อไหม) รอผู้เมตตา คนที่เขารัก หรือเป็นเนื้อคู่กัน (อ.ยิ่งศักดิ์ : ราคาจริงๆเท่าไหร่) อาจจะเกินกว่านั้น
เมื่อถามว่าแสดงว่าเมื่อก่อนมีเงินเป็นร้อยล้านพันล้าน? ไก่ วรายุฑ ตอบว่า แต่เราไม่ได้เอาไปโปรย หรือซื้อของไม่มีประโยชน์ เราซื้ออสังหาริมทรัพย์ ปลูกบ้าน ซื้อเฟอร์นิเจอร์ ช่วงนี้ไม่เหนื่อย แต่อาจสโลว์ไลฟ์ มีความสุข แต่อยากทำงาน
เมื่อถามว่าถ้าไม่มีคนจ้างจริง ไม่มีอะไรทำจริงๆ คิดไหมว่าเราต้องอำลาวงการบันเทิง? ไก่ วรายุฑ ตอบว่า อำลาหรือไม่ ต้องอยู่ที่แฟนๆ ยังเอ็นดู อยากเห็นไก่ในจอทีวีอยู่ไหม อยากทำละครสั้น ก็ต้องศึกษา เพราะเราเคยทำแต่ละครยาว
เมื่อถามถึงสิ่งที่เคยผิดพลาดในอดีต? ไก่ บอกว่า อาจด่าคนโน้นว่าคนนี้ กระทบกระแทกแดกดันอะไรเขา โดยที่เราไม่รู้ตัว ก็ต้องขอโทษไว้ตรงนี้ คนเรียก ไก่ปากหมา แต่เป็นคนจริงใจนะ
ถามว่าน้อยใจไหมปั้นคนตั้งใจทำละคร สภาวะแบบนี้ ช่องไม่ดูดำดูดี ปล่อยนั่งเหงา ความสำคัญเราลดลง? ไก่ วรายุฑ ยอมรับว่า มันเป็นสัจธรรม ความสำคัญเราอาจจะลดลง เราทำมาแต่รุ่นโบราณ เด็กสมัยใหม่อาจไม่ชอบงานเรา ไม่ถูกจริตก็เท่านั้นเอง เสียใจไหม ไม่ถึงกับเสียใจ แต่รู้สึกว่าเฮ้ยทำไมงานเราไม่ถูกจริตเขาเหรอ หรืองานที่ส่งไปไม่โดนใจเขาเหรอ ไม่ชอบเหรอ ก็เยอะเรื่องนะที่ส่งไปแล้วโนๆๆๆ จบ ก็โนด้วย เขาอาจไม่ชอบขี้หน้าไก่ก็ได้ ลืมคิด