เพื่อน "ปู มัณฑนา" ตามหา "ไฮโซขายเพชร" เคยออกรายการดัง ถ้าไม่มา ปู จะแจ้งความ

เพื่อนสงสาร "ปู มัณฑนา" ค้ำเงินกู้ ประกาศตามหา "ไฮโซขายเพชร" และสามี เคยออกรายการดัง ถ้าไม่ออกมา "ปู" จะแจ้งความ

จากกรณีดราม่าทวงหนี้ ปู มัณฑนา ซึ่งเป็นตัวกลาง และเป็นคนค้ำประกันในการกู้ยืมเงินของ ลูกหมี รัศมี , ลิลลี่ เหงียน รวมทั้ง อ้อม อรัญญา ให้กับไฮโซขายเพชร และเพื่อนๆ ซึ่งหลังเกิดเรื่องติดต่อไม่ได้

 

เพื่อน ปู มัณฑนา ตามหา ไฮโซขายเพชร เคยออกรายการดัง ถ้าไม่มา ปู จะแจ้งความ

ล่าสุด เพื่อนของ ปู มัณฑนา ได้ออกมาเผยว่า ไฮโซขายเพชร และสามี ทำธุรกิจร้านเพชร 2 สาขา รวมถึงมีร้านอาหารที่สุขุมวิท กิจการไปได้ดีมาก เคยได้รับรางวัลสุดยอดผู้บริหารแห่งอาเซียน ปี 2018 เป็นเซเลปออกงานและรายการต่างๆ เคยออกรายการครัวคุณต๋อย ทำธุรกิจเฟรนไชส์ร้านอาหาร ไลฟ์สดขายแหวนเพชร ยอดแฟนคลับเข้ามาชมและอุดหนุนร่วมแสนกว่าคนต่อการไลฟ์ 1 ครั้ง 


ซึ่งในขณะนั้นธุรกิจได้เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งร้านเพชร และเฟรนไชส์ร้านอาหาร ทำให้เกิดการบริหารงานที่ผิดพลาด ลูกค้าออเดอร์ของจำนวนมาก ส่งของให้ไม่ทันตามกำหนดลูกค้า จึงเกิดความเสียหายขึ้นเป็นมูลค่าที่เยอะมาก 


ไฮโซขายเพชร และสามี จึงได้เข้ามาปรึกษา ปู มัณฑนา และเพื่อนๆ เพื่อขอยืมทุนหมุนเวียนธุรกิจ และให้ช่วยหานายทุนข้างนอกเพิ่มเติม แต่ด้วยความที่นายทุนไม่รู้จักกับไฮโซขายเพชรโดยตรง ปู มัณฑนา จึงต้องเป็นตัวกลางในการคุยและเป็นคนค้ำประกัน นายทุนจึงจะให้กู้ เพราะถ้าเกิดไฮโซขายเพชรไม่จ่ายขึ้นมา ปู มัณฑนา ซึ่งเป็นคนค้ำประกัน ก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดตามข้อตกลง 

 

ปู มัณฑนา ก็ยินดีเพราะยอดไม่ได้เยอะมากมาย และอยากให้ไฮโซขายเพชร กอบกู้ธุรกิจรุ่นที่ 3 กลับคืนมาให้ได้ แต่เนื่องจากไฮโซขายเพชรไม่มีหลักทรัพย์มาค้ำประกัน นายทุนจึงปล่อยดอกเบี้ย 3% , 5% , 10% , 15% , 20% ทั้งรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน

 

เพื่อน ปู มัณฑนา ตามหา ไฮโซขายเพชร เคยออกรายการดัง ถ้าไม่มา ปู จะแจ้งความ

ปู มัณฑนา และเพื่อนๆก็เห็นใจ และสงสารไฮโซขายเพชรที่ขายของได้กำไรน้อยบ้างเยอะบ้าง แต่ก็ต้องมาส่งดอกเบี้ยที่สูงไม่ได้ปิดต้นเลย ส่งจนทบต้นทบดอก บางครั้งไฮโซขายเพชรส่งดอกเบี้ยไม่ทัน ทางปู มัณฑนา และเพื่อนๆก็ต้องช่วยกันส่งดอกแทนกับนายทุน เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงคนค้ำประกัน 


ส่วนกรณี อ้อม อรัญญา ทางปู มัณฑนา ได้ทำการกู้ยืมและค้ำประกันให้ไฮโซขายเพชรวันที่ 30 มกราคม 2564 กับสามีอ้อม โดยมีพี่ชายที่เคารพแนะนำให้รู้จัก ยอดกู้ 500,000 บาท ดอกเบี้ย 3% ต่อเดือน 


หลังจากนั้น อ้อม บอกว่าสามีต้องใช้เงิน จะหาดอก 10% มาปิดดอกเบี้ย 3% ของสามี อ้อม ให้เอง เมื่อปิดครบ หลังจากนั้นก็ได้มีการกู้ยืมผ่านอ้อมมาโดยตลอด จนถึงวันที่ 19 มิ.ย. 2567 โดยอ้อมออกดอกเบี้ย 10% ,15% , 20% ทั้งรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน เช็ค Statement จากธนาคาร ปรากฏว่าทาง อ้อมและพวก โอนมาบัญชี ปู มัณฑนา เป็นจำนวนเงิน 1,425,000 บาท 


และทาง ปู มัณฑนา โอนคืนบัญชี อ้อมและพวก เป็นจำนวนเงิน 2,307,000 บาท ดังนั้นตั้งแต่ 30 ม.ค.  2564 - 19 มิ.ย. 2567 อ้อมและพวก ได้รับดอกเบี้ยรวมประมาณ 3 ปีครึ่ง เป็นจำนวนเงิน 882,500 บาท (ซึ่งอ้อมบอกว่าไม่ได้ปล่อยกู้เป็นอาชีพ) ตลอดระยะเวลาที่กู้ยืมกัน 3 ปีครึ่ง 


ทาง ปู ไม่เคยเจอหน้าอ้อมเลย ใช้ช่องทางโอนเงินกันเท่านั้น เพราะเชื่อใจและไม่เคยขาดส่งดอกเลยแม้แต่เดือนเดียว หลักฐานตาม Statement จากธนาคารตามความจริง ก็ไม่ทราบว่าจะออกมาแจ้งความเพื่ออะไร ทั้งที่ไม่เคยมีปัญหากันเลย
 

สำหรับกรณี ลูกหมี ให้สัมภาษณ์ว่ายืมทุกคนในกองถ่าย ยันแม่บ้าน ช่างแต่งหน้า ซึ่ง ปู บอกว่าตนต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกคนในกองถ่ายยืม แต่ยินดีให้ยืม เพราะเป็นเงินไม่ได้จำนวนมากมายอะไร มีคืนก็คืน ไม่มีคืนก็ไม่เป็นไร ไม่เคยทวง อยากให้นักข่าวไปสัมภาษณ์คนในกองถ่ายและนักแสดงมากกว่าว่า ปู มัณฑนา มีนิสัยอย่างไร ที่เลี้ยงน้ำ เลี้ยงขนมทีมงานกองถ่ายนิดๆหน่อยๆ ถือว่าเป็นน้ำใจ ไม่ได้อวดรวยตามที่ลูกหมีพูดเลย 


เพื่อนปู มัณฑนา จึงฝากให้ไฮโซขายเพชร และสามีออกมาพูดความจริงว่า ปู เป็นตัวกลางในการกู้ยืมเงินให้ไปหมุนทำธุรกิจให้จริงๆ สงสารปู ที่ต้องมาแบกรับหนี้ที่ไม่ได้ก่อ แต่ต้องรับผิดชอบ 100% เพราะเป็นคนค้ำประกัน สงสารครอบครัวปูที่ไม่รู้เรื่อง แต่กลับได้รับผลกระทบจากการประจานลงโซเชียลแบบนี้ มันไม่ยุติธรรม