- 18 ก.ย. 2567
เจาะแบรนด์ Love Potion "ซ้อการ์ด" เจ้าแม่ Tiktok สู่เจ้าของแบรนด์ระดับ 100 ล้าน ตำนานไลฟ์ 40 นาที ฟันยอดขาย 25 ล้าน ไลฟ์ไม่ถึง 1 นาทีของหมดเกลี้ยง มาแรงสุดในโซเชียล
"ซ้อการ์ด ใครคือ" : เจ้าแม่ Tiktok อินฟลูเอนเซอร์หน้าหมวยที่มีผู้ติดตามมากกว่า 10.4 M จากวัยรุ่นธรรมดา สู่การเป็นเจ้าของแบรนด์ Love Potion และ Lip Oil ซ้อการ์ด ที่กำลังมาแรงสุดๆในโลกออนไลน์ขณะนี้ ทุบสถิติไลฟ์ขายของ 40 นาที สร้างยอดขาย 25 ล้านบาท , ไลฟ์ขายลิปสติก 1 นาที คนดูสดถึง 80,000 กดซื้อของหมดตะกร้า และสร้างตำนานสะเทือนวงการธุรกิจ ไลฟ์ขายของ 33 นาที ฟันยอดขายไป 12 ล้าน
แม้แบรนด์เพิ่งเปิดตัวไม่นาน แต่ด้วยการสร้างตัวตนให้เป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือ หัวใจหลักคือความจริงใจ ปั้นแบรนด์ผ่านการสร้าง Storytelling ทำให้สาวน้อยคนหนึ่งกลายเป็นเจ้าของธุรกิจระดับ 100 ล้าน
สำหรับ ซ้อการ์ด ชื่อจริง ณัฐชยานันท์ สุขวัฒนาพร เดิมทีไม่ได้เป็นคนดังที่มีชื่อเสียง วัยรุ่นธรรมดาๆที่เริ่มจากการขายเคสโทรศัพท์มือถือเพื่อหารายได้เลี้ยงดูตัวเองและจุนเจือครอบครัวที่ประสบปัญหาทางธุรกิจ เริ่มโด่งดังในเส้นทางอินฟลูเอนเซอร์ด้วยการทำคลิปแต่งตัวเป็นตัวของตัวเอง ออกแนวเซ็กซี่แล้วโดนเพื่อนด่า , คอนเทนต์การบริหารเงินของตัวเอง จนเริ่มมีคนคุ้นหน้าคุ้นตาและเริ่มเป็นที่รู้จัก จนได้ชื่อว่าเป็น "ดาว Tiktok" หน้าใหม่
เริ่มแรกซ้อการ์ด เริ่มตัดสินใจขายสบู่ Grape Soap ออกมาภายใต้แบรนด์ Love Potion หลังจากนั้นธุรกิจก็ขยายตัวออกไปเรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จ ในปี 2566 แบรนด์ของซ้อการ์ด สร้างรายได้รวมอยู่ที่ 154 ล้านบาท ทั้งที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน
จุดเริ่มต้นการทำแบรนด์ของซ้อการ์ด หัวใจหลักคือ Storytelling และ Personal Branding โดยการชูตัวเองเป็นจุดขายของแบรนด์ สร้างตัวตนบ่งบอกความเป็นตัวเองให้กับตัวผู้บริโภคให้รับรู้ ซึ่งเป็นจุดที่แข็งที่สุดของแบรนด์ "Love Potion และ Lip Oil ซ้อการ์ด" สร้างการรับรู้ผ่านการทำคอนเทนต์ต่างๆที่มีความสร้างสรรค์จนทำให้เกิดความรู้สึกเชื่อมโยงกันระหว่างผู้ซื้อกับทางแบรนด์ เหมือนคุยกันกับเพื่อน รู้สึกใกล้ชิดและไว้ใจจนทำให้ไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียดขายของ แต่เลือกซื้อด้วยความเชื่อมั่นในตัวเจ้าของแบรนด์
อีกหนึ่งความน่าเชื่อถือคือ "ความจริงใจ" เงื่อนไขการสร้างแบรนด์ของซ้อการ์ดที่ยึดถือคือ "ต้องจริงใจต่อลูกค้า ขายสินค้าดีมีคุณภาพ ราคาจับต้องได้" การสร้างสินค้าออกมาจะมองในมุมของผู้บริโภคว่าต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ ใช้แล้วเห็นผลจริง ก่อนผลิตจึงทั้งศึกษาและทดลองทุกอย่างก่อนวางขายเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพที่สุดในราคาจับต้องได้ เพราะฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ของแบรนด์คือวัยมัธยมที่เริ่มหันมาดูแลตัวเองและยังมีกำลังทรัพย์จำกัด
Love Potion แบรนด์ที่เจ้าของแบรนด์เป็นให้เธอทุกอย่างแล้ว ด้วยความที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงมักพ่วงมากับความน่าเชื่อถือ ยิ่งเมื่อซ้อการ์ด ออกมาทดลองใช้สินค้าด้วยตัวเองแล้วก็ยิ่งทำให้ผู้ซื้อ "เชื่อใจ" และเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้า แม้ตอนแรกจะทำการตลาดไม่เป็น แต่ด้วยการใช้โซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์ หรือที่เรียกว่า "ใช้เป็น" ทำคอนเทนต์ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ยอดวิวคลิปพุ่งกระฉูดทุกคลิป ทำให้รู้เลยว่าคอนเทนต์ทุกคลิปผ่านการคิดและทำการบ้านมาอย่างดี รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายต้องการอะไร คอนเทนต์แบบไหนที่สร้างยอดได้ ทำให้ความนิยมและชื่อเสียงของแบรนด์ยิ่งโด่งดัง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของโปรโมชันและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้ปังขึ้นไปอีก
ตัวตนและเรื่องราวของซ้อการ์ด ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจ กล้าที่จะลงมือทำแม้เริ่มต้นจาก 0 แต่ก็สามารถเติบโตไปถึงระดับ 100 ล้านได้
นอกจากนี้ยังมีการทำคอนเทนต์เพื่อสังคม เช่นช่วยเหลือคนจนหรือคนที่เดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือยิ่งทำให้ "ได้ใจ" จากหลายๆคน สร้างการรับรู้ในด้านดี สร้างความรู้สึกในแง่บวกให้กับทางแบรนด์อีกด้วย