- 14 พ.ย. 2567
ย้อนอดีต "ฟิล์ม รัฐภูมิ - เสี่ยอู๊ด สิทธิกร บุญฉิม" จากผู้อุปถัมภ์เปย์ 8 ล้าน ด้วยคำว่ารักจนวันตา สุดท้ายบอกแค่คนรู้จัก
ชื่อของ"ฟิล์ม รัฐภูมิ" กลับมาโด่งดังอีกครั้ง หลังจากการที่ "หนุ่ม กรรชัย" เปิดคลิปเสียงของฟิล์มที่เหมือนจะเป็นการตบทรัพย์ บอสปัน ดิไอคอน และทางฟิล์มก็ได้จัดแถลงข่าวสวนทันควันว่า ตนเปิดบริษัทรับทำพีอาร์ โปรดักชั่น เงิน 20 ล้านบาทที่เรียกนั้น คือค่ารับงานเพื่อโปรโมตสินค้าให้ดิไอคอน และต้องขออภัยด้วยที่ตนอ้างชื่อ หนุ่ม กรรชัย เพื่อขายงาน
โดยนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ฟิล์ม รัฐภูมิ มีข่าวฉาว ๆ เกี่ยวกับการเรียกเงินแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้เมื่อปี 2549 เคยมีข่าวและรูปของ ฟิล์ม รัฐภูมิ กับ เสี่ยอู๊ด สิทธิกร บุญฉิม เซียนพระชื่อดัง ที่มีความสนิทสนมกันสุด ๆ จับมือจับไม้ไปทำบุญกรวดน้ำด้วยกันออกมา
ทั้งนี้ ในตอนแรกมีข่าวของฟิล์มและเสี่ยอู๊ดออกมา โดยที่บอกว่า เสี่ยอู๊ดคือคนที่ช่วยเหลือฟิล์มในหลาย ๆ อย่าง ทั้งบ้าน รถ เงินทอง และฟิล์มได้ออกมาโต้ข่าวว่า ความสัมพันธ์ของฟิล์มและเสี่ยอู๊ดนั้นเป็นแค่นายจ้าง - ลูกน้อง เพราะเสี่ยอู๊ดมาจ้างฟิล์มเล่นคอนเสิร์ตเท่านั้น ส่วนที่มีข่าวว่าเสี่ยอู๊ดเปย์ฟิล์มถึง 7-8 ล้านบาท ฟิล์มก็บอกว่าไม่ขนาดนั้น แต่ในตอนแรกที่ฟิล์มเข้าวงการ บ้านฟิล์ม มีปัญหาจริง บ้านกำลังจะโดนยึด และเสี่ยอู๊ดก็เข้ามาช่วย ฟิล์มไม่เคยลืมบุญคุณเสี่ยอู๊ดแต่อย่างใด ส่วนเรื่องรถมินิออสตินที่ฟิล์มอยากได้ ฟิล์มแค่ไปปรึกษาเสี่ยอู๊ด ไม่ได้ขอให้เสี่ยอู๊ดซื้อให้ ฟิล์มยกให้เสี่ยอู๊ดเป็นเพียงผู้มีพระคุณ ไม่มีความสัมพันธ์ชู้สาวอย่างอื่น
เรื่องนี้ทำให้เสี่ยอู๊ดถึงขั้นปรี๊ดแตก จัดแถลงข่าวโต้ฟิล์มที่คอนโดที่ตึกช้าง ซึ่งเป็นคอนโดที่เสี่ยอู๊ดซื้อให้ฟิล์ม มีภาพของเสี่ยอู๊ดและฟิล์มตอนไปเที่ยวฮ่องกงด้วยกันติดอยู่ เสี่ยอู๊ดบอกว่าตอนแรกฟิล์มบอกว่า เสี่ยอู๊ดเป็นแค่เพื่อนแม่ ไม่ได้รู้จักสนิทสนมกัน แต่ตอนหลังฟิล์มออกมายอมรับว่ารู้จักกันจริง ๆ ส่วนเรื่องรถมินิที่ฟิล์มอยากได้นั้น ฟิล์มมาเทียวไล้เทียวขื่อขอเสี่ยอู๊ดและที่บอกว่าเงินที่ขอไม่ถึง 7 ล้าน ก็ต้องถามกลับว่า คนใช้กับคนจ่าย ใครจะจำแม่นกว่ากัน
ส่วนเรื่องสัมพันธ์ลึกซึ้งนั้น ตนไม่อยากพูด แต่ขออยู่เฉย ๆ ดีกว่า และที่ตนให้บ้านฟิล์มไป เพราะฟิล์มบอกรักเสี่ยอู๊ด รักโดยไม่มีข้อจำกัด ในตอนแรกฟิล์มบอกว่ารักแบบพี่ชาย แต่พอกลับมาจากฮ่องกง ฟิล์มก็บอกรักเสี่ยอู๊ด เสี่ยอู๊ดเลยโอนทุกอย่างให้หมดเลย
อย่างไรก็ตาม ในปี 2551 เสี่ยอู๊ดก็เป็นข่าวอีกครั้ง จากการที่ศาลตัดสินจำคุกเสี่ยอู๊ด ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ใช้และเลียนแบบเครื่องหมายราชการมีโทษจำคุก 5 ปี นำตรามหามงกุฎมาใช้ และในปี 2553 ตอนที่ฟิล์มมีข่าวกับ แอนนี่ บรู๊ค ก็มีจดหมายจากเสี่ยอู๊ดที่ส่งมาจากในเรือนจำ ทวงคืนบ้านที่เสี่ยอู๊ดยกให้ฟิล์ม และบอกว่าฟิล์มควรเอาบ้านนั้นยกให้กับลูกชายของแอนนี่ไป
ในปี 2556 เสี่ยอู๊ดได้รับอิสรภาพและออกจากคุกมา เสี่ยอู๊ดก็เปิดใจว่า เสี่ยอู๊ดไม่มีบ้าน บ้านของเสี่ยอู๊ด เสี่ยอู๊ดยกให้ฟิล์มไปหมดแล้ว แต่ในวันนี้เสี่ยอู๊ดไม่เหลืออะไร เสี่ยอู๊ดก็จะไม่ขออะไรจากฟิล์มสิ่งที่ยกให้ฟิล์มทั้งบ้าน รถ เงินทอง ถือว่าให้แล้วให้เลย อย่างน้อยเสี่ยอู๊ดก็ภูมิใจ ที่เมื่อปี 2548 เสี่ยอู๊ดช่วยให้ฟิล์มและครอบครัวพ้นทุกข์ ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี หากวันไหนฟิล์มรู้สึกเกลียดเสี่ยอู๊ด ไม่อยากได้บ้านหลังนี้แล้ว ก็ให้ขายไป แล้วเอาเงินไปบริจาค แค่นี้ก็ดีใจ พร้อมกับขอโทษที่ครั้งหนึ่งเสี่ยอู๊ด เคยพูดให้ฟิล์มเสียหายด้วย
สุดท้าย ในปี 2558 ก็มีข่าวของเสี่ยอู๊ดที่เสียชีวิตในโรงแรมแห่งหนึ่ง จากการทานยาเกินขนาด พร้อมกับที่เสี่ยอู๊ดได้ทิ้งจดหมายเอาไว้ ซึ่งเนื้อหาในช่วงหนึ่งระบุว่า แม้ว่าเสี่ยอู๊ดจะหาเงินทองได้มากมาย แต่เสี่ยอู๊ดไม่เคยสะสมสร้างฐานะเลย เพราะมัวแต่ช่วยเหลือคนอื่นจนตัวเองเดือดร้อน ผลตอบแทนกลับทำให้เสื่อมเสีย ไม่มีความดีและความจริงใจจากคนที่ช่วยเหลือไป
ในขณะที่ ฟิล์ม ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสี่ยอู๊ดเสียชีวิตว่า ตนไม่ได้คุยกับเสี่ยอู๊ดเลย พอเสี่ยอู๊ดเสียแล้ว นักข่าวก็โทร. มาหาประหนึ่งว่าฟิล์มเป็นญาติ ซึ่งไม่ใช่ ฟิล์มไม่ใช่ญาติเสี่ยอู๊ดและไม่รู้เรื่อง และขอแสดงความเสียใจด้วย เสี่ยอู๊ดไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฟิล์ม ไม่ใช่ญาติ เป็นแค่คนรู้จักกันเฉย ๆ