- 25 พ.ย. 2567
"บอย พีซเมคเกอร์" กลัว "เจี๊ยบ พิจิตตรา" ไม่ทน บทพิสูจน์รักแท้ ถอดของมีค่าทุกอย่างให้ไปขายช่วยใช้หนี้ - ไม่อายเป็นดาราดังแต่เดินขายงาน
ประเดิม EP. แรกด้วยการพูดคุยกับ บอย พีซเมคเกอร์ หรือ อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี และ เจี๊ยบ พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์ คู่รักคนดังในวงการบันเทิง ที่ได้มาร่วมพูดคุยเรื่องราวความรักและชีวิตคู่ในรายการ เมาท์เขย่าเตียงของ นก จริยา และ จอนนี่ ซึ่งช่วงตอนหนึ่งที่ได้พูดคุยเกี่ยวกับบทพิสูจน์รักแท้ของ บอย และ เจี๊ยบอยู่นั้น เจี๊ยบ พิจิตตรา ถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา
โดย บอย พีซเมคเกอร์ ได้เล่าถึงตอนที่ไฟไหม้ร้านอาหารชาบูคิงเมื่อปี 2556 ซึ่งตอนนั้น บอย บอกว่า มันเครียดจริง ทำให้เราต้องระวังขึ้น ส่วน เจี๊ยบ พิจิตตรา เสริมขึ้นมาว่า มันไม่มีบทเรียนเรื่องนี้ เรียนหนังสือมา ปัญหาคือทำยังไงให้พ่อแม่ไม่รู้ว่ายอดเท่าไหร่
"ไม่มีอะไรสำคัญเลยในชีวิตเราเลยตอนนั้น นอกจากขอให้คนข้างๆ ยังอยู่กับเราแค่นั้นเอง ของมีค่าของเราทุกอย่าง เราขายหมดเลย สิ่งที่ทัชใจผม เขาเดินเข้ามาแล้วถอดของมีค่าทุกอย่างเอาให้ผม เอาไปขายเพื่อใช้หนี้ วันนั้นผมก็ตระหนักได้ว่า มันไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านี้อีกแล้ว ก็ผลัดกันให้กำลังใจกันแบบนี้ต่อไป วันนี้คนนี้อ่อนแอ คนนี้ก็บอกไม่เป็นไรเดี๋ยวเราก็หมดแล้ว" บอย อธิบายเสริม
ส่วน เจี๊ยบ พิจิตตรา บอกว่า อะไรไม่เคยทำก็ทำ ขณะที่ บอย เองก็เสริมอีกว่า เขาเป็นคนเดินเข้าไปขายงานตามเลานจ์ ผู้จัดการเลานจ์รู้จักเจี๊ยบหมด จนถึงทุกวันนี้ 6-7 ปี เราใช้หนี้หมดก่อนจะแต่งงานไม่กี่เดือน จากที่แพลนจะแต่งงานปีที่ไฟไหม้
ส่วนประเด็นที่ว่าไม่มีลูกนั้น บอย บอกว่า อันที่จริงมีแพลนจะแต่งตอน 30 ต้นๆ แล้วก็จะมีลูกเลย พอเรา 50 ลูกเราจะอายุ 15 เป็นวัยรุ่นพอดี เขา 25 เรา 60 พอดี แต่พอมันมีเรื่องนี้ เราคุยกันว่าเรายังดูแลตัวเองกันไม่ได้เลย ทำงานใช้หนี้กันมาช่วง 30 กลางๆ ถึง 30 ปลายๆ ซึ่งตอนเรากำลังทำงานใช้หนี้กัน เขาอดทนมาก ยอมสละความสุขหลายอย่างเพื่อเรา เพื่อการใช้หนี้ ยอมไม่ได้เที่ยว ไม่ไปต่างประเทศเลย ไม่ใช้ของแพงเลย
"ขายทุกอย่าง รถก็ขาย อะไรก็ขาย พอวันหนึ่งเรากลับมาเริ่มนับหนึ่งได้ คนแรกที่ผมรู้สึกอยากให้ได้รับความสุขมากที่สุด คือเขา เขาควรจะได้รางวัลในสิ่งที่เขายอมสละไปตอนนั้น ตอนนี้ผมเลยคิดว่า ดูแลกันและกันให้มีความสุขที่สุด" บอย พีซเมคเกอร์ พูดถึงภรรยาสุดที่รัก
ขณะที่ เจี๊ยบ บอกว่า ตั้งแต่ผ่านเรื่องนั้นมา ภาพในอนาคตมันเหมือนทุกวันนี้มันมีความสุขมากแล้ว ไม่ได้คาดหวังว่าฉันต้องอยู่บ้านใหญ่ มีบ้านที่ต่างประเทศไม่เลย ทุกวันนี้ยังตีกัน เขาสร้างเรือนหอให้ใหญ่ประมาณหนึ่ง แต่กลายเป็นตอนนี้หนูชอบอยู่บ้านเล็ก ที่อยู่กับคุณแม่ ชีวิตเราไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่านี้ อยู่กับครอบครัว ว่างก็ไปต่างประเทศ ไม่ได้มีฝันใหญ่
ทั้งนี้ บอย ยังเล่าให้ฟังอีกว่า เรื่องที่เขย่าเตียงที่สุด ที่ไม่เคยคุยกับ เจี๊ยบ พิจิตตรา เหมือนกัน ตนแค่รู้สึกกลัว ตอนที่เกิดเคสไฟไหม้ตอนนั้น แล้วรับรู้ว่ามีหนี้เท่าไหร่ ตนกลัวเขาไปจากเรา กลัวเขาจะไม่ทนแล้ว พูดตามตรงเขามีสิทธิ์เลือก เพราะตอนนั้นยังไม่แต่งงานกัน แต่ปรากฏว่าจนถึงวันนี้เขาก็ยังอยู่ ในช่วงที่ลำบากที่สุดเขาก็อยู่กับเรา หลังจากนั้นก็เลยมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องที่เขย่าที่สุดคือความคิดผมเอง ความกลัว
เจี๊ยบ พิจิตตรา ก็พูดความในใจว่า "ส่วนตัวเราทำมากกว่าพูด ที่ผ่านมาจะทำก่อนให้เขาเห็นเอง อย่างตอนที่หาเงินกันเยอะๆ เดี๋ยวเราหางานเพิ่ม เดี๋ยวฉันจะลงไปตามร้านต่างๆ เอง" ก่อนที่เจ้าตัวจะร้องไห้ออกมา
อย่างไรก็ตาม บอย ยังบอกอีกว่า "มันจะหาใครสักกี่คน อยู่ในช่วงพีกของชีวิต ต้วเขาก็มีชื่อเสียงเป็นดารา ใครก็รู้จัก แต่เขาไม่อายที่จะเดินเข้าไป เจี๊ยบมาขายงาน" ขณะที่ เจี๊ยบ บอกว่า "มันผ่านไปแล้ว แต่ทำไมพอพูดแล้วยังร้องอยู่ ไม่ได้เสียใจ แต่มันออกมาเอง"