หนูไม่ได้โง่ แค่ไม่รู้ "ชาล็อต" เปิดใจปมตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ สูญ 4ล้าน

กรณี ชาล็อต ออสติน นางงามสาวสังกัดมิสแกรนด์  โดนหลอกโอนเงิน 4ล้าน โดยตกเป็นเหยื่อของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ที่สวมรอยตีเนียนอ้างเป็นตำรวจไซเบอร์ และ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอข่มขู่เอี่ยวคดีฟอกเงินหุ้นสตาร์ค (บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น)  ล่าสุดวันที่ 11 ธ.ค.67น พล.ต.ท.ไตรงรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบช.สอท. สั่ง ตร.ไซเบอร์ เร่งสอบปากคำชาล็อต ระดมทีมแกะรอยล่า มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท. เป็นหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี เตรียมจ่อโอนคดีจากสน.สุทธิสาร มายังบช.สอท.เพื่อดำเนินการตั้งเป้า 1 สัปดาห์มีความชัดเจนตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ซึ่งทาง ชาล็อต ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวว่า ในรายการโหนกระแส พร้อมเล่ากลโกงมิจฉาชีพ ว่า เธอเองถูกกลุ่มมิจฉาชีพปลอมเป็นตำรวจอ้างว่านางงามสาวพัวพัวคดีฟอกเงิน โดยถูกหลอกลวงใช้กลอุบายให้วิดีโอคอล ถ้าไม่ทำตามกระบวนการจะออกหมายจับตอน 1 ทุ่ม จากนั้นจะฝากขัง ทำให้สุดท้ายเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินีรวมแล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นกว่า 4 ล้านบาท

ซึ่งตนไม่กล้าส่องโซเชียล เพราะรู้เลยว่าจะโดนอะไร พร้อมฝากบอกถึงคนที่เข้ามาโจมตีหลังถูกแก๊งคอลเซนเตอร์ ว่า

หนูอยากบอกว่าหนูไม่ได้โง่นะคะ หนูแค่ไม่รู้ เพราะถ้าหนูรู้ หนูคงไม่โดนหลอกค่ะ หนูไม่ได้โง่ หนูแค่ไม่รู้ว่าเขาคือมิจฉาชีพ เพราะถ้าหนูรู้คงไม่โง่โอนให้ ถ้าหนูรู้ว่าเป็นมิจฉาชีพแล้วหนูโอนให้ อันนี้หนูยอมรับก็ได้ว่าหนูโง่จริง 100% แต่นี่หนูไม่รู้

ด้านทาง  พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. กล่าวว่า หลังจากวานนี้ทางตำรวจไซเบอร์ได้ร่วมกันสอบปากคำผู้เสียหายไว้แล้ว ทำให้ทราบข้อมูลและพฤติการณ์ของคนร้าย ทั้งนี้ได้ให้ทางฝ่ายวิเคราะห์แกะรอยเส้นทางเงินจากบัญชีของ น.ส.ชาล็อต ไปยังบัญชีคนร้ายเรียบร้อย และอยู่ระหว่างการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยจะเร่งออกหมายจับคนร้ายโดยเฉพาะกลุ่มบัญชีม้าแถวแรก รวมถึงชายสองคนที่ปรากฏว่ามีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์และเจ้าที่ดีเอสไอ ในการหลอกลวงผู้เสียหายด้วย ต่อไป ขณะเดียวกันได้ให้ทางบก.สอท.ประสานไปยังสน.สุทธิสาร เพื่อดำเนินการในขั้นตอนของการโอนสำนวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว