- 19 ธ.ค. 2567
"อั้ม อธิชาติ" เล่านาทีบอกเลิกกัน พูดชัดใครขอยุติความสัมพันธ์ในฐานะสามีภรรยาก่อน เผยโอกาสรีเทิร์นรัก "นัท มีเรีย"
จากที่ก่อนหน้านี้ "นัท มีเรีย เบนเนเดดตี้" นักร้องนักแสดงชื่อดังได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ ว่าได้ยุติความสัมพันธ์ในฐานะสามีภรรยากับ "อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์" พระเอกหนุ่มเรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ซึ่งล่าสุด อั้ม อธิชาติ ได้ออกมาพูดบ้าง ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจผ่านรายคุยแซ่บโชว์ ยืนยันว่าไม่เรื่องมือที่สาม
โดย อั้ม อธิชาติ เริ่มต้นอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า เรื่องข่าวอักษรย่อ ตอนนั้นอ่านด้วยสถานการณ์ที่ไม่ได้คิดว่าเป็นตัวเอง เพราะยังคุยงานกับ นัท อยู่ตามปกติ คุณแม่ก็ไปซื้อกับข้าวตามปกติ ผู้ช่วยก็บอกว่ามีข่าวมาเต็มฟีดเลย โยงเป็น อั้ม ว่านอกใจเตียงหัก ก็ไม่คิดว่าเป็นตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้เวลามีข่าว เราก็จะถูกโดนโยงทุกครั้ง
แล้วก็มีนักข่าวโทร.มาขอสัมภาษณ์หลายคน ซึ่งเราก็บอกว่าไม่ใช่มั้ง ไม่ใช่เราที่นอกใจ คือตอนนั้นไม่อยากให้สัมภาษณ์ เพราะว่าไม่อยากให้เป็นข่าวอะไรใหญ่โต แต่พอนักข่าวบอกว่าอยู่ใกล้ๆ เราก็ให้มาสัมภาษณ์ได้ ซึ่งถ้ามีชนักติดหลังเราจะเรียกมาสัมภาษณ์ทำไม คือเราเลิกกันตามเวลาที่ นัท บอก แต่ตอนที่เราให้สัมภาษณ์ คือตอนนั้นยังไม่ได้เลิกกันวันที่ 1 ตุลาคม
"แล้วหลังจากนั้นก็โทร.ถามคุณนัทว่าเห็นข่าวไหม มันไม่ใช่เรานะ เขาก็บอกว่าเห็นแล้วเดี๋ยวโทร.กลับ เพราะกำลังจะไปทำงาน เลยบอกว่าขอให้โทร.กลับมานะ แต่เขายังไม่ได้โทร.มา เราเลยโทร.ไป แต่เขายังไม่ได้รับ เราก็เลยออกมาโพสต์ แล้วพอคุณนัทโพสต์โซเชียล คนเลยคิดว่าทำไมมันสวนทางกัน
คืนวันที่ 2 คุณนัทก็บอกว่ายังไม่พร้อมจะคุยขอเวลาสัก 2-3 วัน คือเราก็เลยงงว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ตอนนั้นก็เลยขอเวลายังไม่ออกรายการ ขอคุยปัญหาในบ้านก่อน แล้วก็ได้คุยกันอีกทีคืนวันที่ 5 คุณนัทบอกว่าได้คิดมาหลายเรื่อง แล้วเขาก็ขอยุติความสัมพันธ์ เลยถามว่าเพราะเรื่องอะไร เขาบอกว่าพอช่วงอายุหนึ่ง มีเป้าหมายชีวิตที่แตกต่าง ไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน เลยเป็นเรื่องคนสองคนเท่านั้นที่คุย
เราเลยบอกว่ากลับมาคุยกันที่บ้านได้ไหม มานั่งคุยกันเห็นหน้ากันชัดๆ ว่าเราจะยังไง ก็เลยได้คุยกันวันที่ 9 ตุลาคมแบบเจอตัว ก็ได้คุยกันวันนั้น คือเราใช้ชีวิตกันมามากแล้วผ่านเรื่องราวต่างๆ มามาก เรามีทั้งผิดพลาดมากมาย มีทุกข์และสุขมามากมาย วันนั้นที่เราคุยกัน ก็ถามว่ามีปัญหาของเรื่องมือที่สามตามข่าวไหม คุณนัทก็ตอบว่าไม่
เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของเราสองคนเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่สาม เป็นการยุตติความสัมพันธ์ด้วยกันเข้าใจ มันเริ่มมีความต่างๆ ในหลายหลายเรื่อง เราสองคนรู้ดี อยากให้เรายุตติความสัมพันธ์ในแบบที่เป็นเพื่อนเจอกัน แบ่งปัน ทักทายกันได้ แบบนี้ดีกว่า นั่นคือสิ่งที่เราคุยกัน เพราะวันนั้นเราไม่ได้คุยกันเยอะ เราต่างเคารพการตัดสินใจร่วมกันจริงๆ
หลังจากวันที่ 9 ตุลาคมก็ขอเวลานิดหนึ่งเพื่อย้ายของออก ก็เลยย้ายของจากบ้านวันที่ 13 ตุลาคม ถ้าตามไทม์ไลน์เราก็อยู่ตามปกติอยู่ แต่มันเกิดขึ้นหลังจากนั้น ซึ่งหลังจากนั้นเราก็ไม่รู้จะพูดอะไรเลย วันที่อัดคลิปก็คือวันที่ 2 ก็คือยังใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้มีการทะเลาะเบาะแว้งอะไร ถามว่าประโยคไหนที่ฟังแล้วรู้สึกว่าโอเค เรายุตติความสัมพันธ์ในฐานะสามีภรรยากัน คือเราคบกันมานานแล้ว เข้าใจทุกอย่างที่เป็นเขา
สังคมรอบข้าง ชีวิตครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จริงๆ คนในครอบครัวจริงๆ ที่เราบอกว่าเราเข้าใจเขา เราไม่ได้เข้าใจเขาจริงๆ หรอก ต่างคนต่างมีข้อดีข้อเสีย ทุกข์สุขร่วมกันมา ในวันที่เขาตัดสินใจ เราก็รู้สึกว่ามันเป็นเวลาของเขา มันมีอะไรมาก่อนหน้านั้น แต่เราพยามกันมาแล้ว ไม่ว่าจะอะไรก็ตามผิดเรายอมรับนะ เราพร้อมจะบอกแก้ไข ถ้าอะไรที่มันไม่ใช่ เราก็ต้องยืนยันตามนั้นว่าไม่ใช่"
อั้ม อธิชาติ ยังบอกอีกว่า วันนี้เราพยายามกันมาแล้ว ไม่ใช่เรื่องของคนสองคน มันมีสิ่งต่างๆ ที่เราพยายามกันมา การสร้างชีวิตครอบครัวประกอบด้วยหลายส่วน ครอบครัวเราครอบครัวเขา หลายๆ เรื่องเองเราก็พยาพยามแก้ไขมาโดยตลอด วันนั้นมันเป็นเรื่องของ 15 ปี ไม่ใช่ประโยคใดประโยคหนึ่ง ถ้าตัดสินใจกันแบบนี้ เราก็เคารพซึ่งเหตุผล
เรื่องมือที่สามนั้น อั้ม อธิชาติ บอกว่า กับเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ แค่สนิทกันเฉยๆ ไม่มีเรื่องมือที่ 3 อย่างแน่นอน ตั้งแต่ย้ายออกจากบ้านมา แม่ช่วยยกขนของ มือที่สามก็คือแม่นี่แหละ (มีคนเม้าท์ว่าเป็นเจนนี่หรือเปล่า?) กับเจนี่คือสนิทกัน ตอนนั้นก็มีเจนี่ แอฟ เบนซ์ ที่ทำงานด้วยกันสนิทกัน สรุปมือที่สามไม่มีแน่นอน
อย่างไรก็ตาม อั้ม อธิชาติยังบอกอีกว่าโอกาสรีเทิร์นตอนนี้ยังตอบอะไรไม่ได้เลย ต้องบอกว่าความรู้สึกความทรงจำที่ดียังอยู่ รูปในไอจีบางคนอาจจะลบแต่เรามองว่ามันเป็นความรู้สึกดีๆ รูปพี่นัทเราก็ยังเก็บไว้อยู่ ซึ่งก็ขอบคุณทุกกำลังใจขอบคุณทุกความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นความความคิดเห็นที่ต่างกันก็ตาม เราเข้าใจทุกคนรักจึงเป็นแบบนั้นจแต่อยากให้ทุกคนเคารพในสิ่งที่เป็น การไปคอมเม้นต์บาดหมางเราไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เพราะเราตกลงกันแบบนี้