- 26 ม.ค. 2568
คิดว่าผมเป็นคนแบบนั้นหรือเปล่า? "แน็ก ชาลี" ยอมพูดแล้ว ปมแตกหัก พี่สาว เล่าหมดดราม่า มีปัญญาให้หลานได้แค่นี้
ได้เวลาออกมาชี้แจงเรื่องราวทุกอย่างแล้วสำหรับ แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ ที่โดนดราม่าทั้งเรื่องครอบครัวที่ลือกันหนักว่ามีปัญหาเรื่องเงินกับพี่สาว เดือดจนถึงว่า พี่ๆ ออกมาบอกว่า แน็ก ชาลี ไม่เคยให้อะไรหลาน แถมเปียโนก็ยังมาเอาคืน อีกทั้งยังมีปัญหากับ ปู อดีตผู้จัดการส่วนตัว
ล่าสุด แน็ก ชาลี ได้ออกมาอธิบายเรื่องราวดังกล่าวในรายการ แฉ ที่มี มดดำ คชาภา ตันเจริญ เป็นพิธีกรโต้โผใหญ่ในรายการนี้ ซึ่ง แน็ก เริ่มอธิบายว่า กับกรณีของ อาเธอร์ หลานชายที่ถูกระบุว่าไม่เคยแบ่งเงินให้หลานเลย แน็กก็ถามกลับว่าคิดว่าผมเป็นคนแบบนั้นหรือเปล่า
ซึ่ง มดดำ ก็บอกว่า รู้ว่า แน็ก ชาลี เป็นคนสปอร์ต ก่อนที่ แน็ก จะเปิดใจต่อว่า สิ่งที่ตนต้องมายอมรับในหลายๆ เดือนนี้ ตนต้องไปอยู่กับสิ่งที่บอกว่า ตนไม่เคยให้อะไรหลานเลยแม้แต่บาทเดียว ตนก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้
"ผมจะบอกว่าวันที่ผมไม่มีเงิน ผมกล้าซื้อของเล่นให้หลานผมโดยที่ผมไม่เหลือเงินผมก็กล้าซื้อ ชีวิตผมมีข้อผิดพลาดอันนึงที่มองว่าผมไม่น่าทำมาเลยคือ ผมชอบสร้างภาพให้คนใกล้ตัวผมดูน่ารัก ชอบทำให้ดูดี ผมไม่ใช่คนสร้างภาพให้ของคนแล้วมาถ่ายรูป
ทั้งชีวิตผมให้ของคนหรือทำอะไรเยอะมากนะครับ ผมไม่เคยถ่ายรูป ให้บ้านให้เงินแม่ผมไม่เคยถ่ายรูป ให้เงินวันเกิดหลานผมไม่เคยถ่ายรูป ผมให้รถที่เขาใช้ทุกวันนี้วันเกิดผมก็ไม่เคยถ่ายรูป แต่สิ่งที่ผมต้องมาเจอคือผมไม่เคยให้อะไรแม้แต่ชิ้นเดียวแม้แต่บาทเดียวแปลกดีไหม"
นอกจากนี้ แน็ก ชาลี ยังบอกอีกว่า ก็รู้เหตุผลว่าเขาทำอะไรกันอยู่ แต่ว่าก็ไม่เป็นไร ก็เป็นหลานที่ตนเคยรักมาก ตนมั่นใจว่าตนเป็นคนเลี้ยงมาในระดับหนึ่งรับส่งที่โรงเรียนเอง พาซื้อของเท่าที่ตนซื้อให้ได้ ให้โอกาส ในมุมตลกเวลาที่ตนให้ของขวัญวันเกิดตนจะชอบบอกว่าตนไม่ได้ให้
ความซวยของตนคือจะใช้วิธีการถ่ายข้าวมันไก่น่ารักๆ เพราะเราไม่อยากให้เป็นตัวอย่างที่ว่าเด็กต้องมาดูว่าวันเกิดต้องได้ของใหญ่ตลอดต้องได้เงินเป็นก้อน ตนอยากทำให้หลานดูน่ารักก็เอาข้าวมันไก่ให้หลานแล้วถ่ายวิดีโอ เชื่อไหมว่ามันย้อนมาวันนี้ ตนโดนหาว่ามีปัญญาให้หลานแค่นี้
"ผมไม่ใช่คนชอบถ่ายรูปหรือไปอวดเวลาทำอะไรมากมาย ทำบุญหรืออะไรผมไม่เคยถ่ายรูป แม้แต่แฟนผมที่เงินสดในวันเกิดผมก็ไม่เคยออกมาป่าวประกาศอะไร พอเจอแบบนี้บางทีก็อยากออกมาแก้ไขแต่บางทีก็ไม่อยากพูด
เพราะผมรู้สึกว่าช่วงนี้ ชีวิตผมมีน้องหลายคนที่อยากทำเพลงด้วยอยากร่วมเดินทางในสิ่งที่ผมทำอยู่ด้วย ผมไม่อยากให้มันมีผลกระทบกับคนใกล้ตัวผมเลยรู้สึกว่าเรื่องอะไรบางอย่างทนได้ก็จะทนให้มันถึงที่สุด"
ขณะเดียวกัน แจ็ค แฟนฉัน ได้ถามถึงกรณีที่ แน็ก ชอบพูดว่าถ้ามีอะไรให้มาด่า แน็ก สิ่งนี้มันทำให้ตัวเองแย่ลงหรือเปล่า ซึ่ง แน็ก ก็ตอบว่า มันทำให้ตนเป็นคนอดทนมากขึ้น ไม่ว่าเรื่องอะไรเราก็พร้อมรับแทน เรื่องอะไรที่เราไม่ได้เป็นคนทำคนยัดเยียดให้เราทำ เราก็ต้องรับว่าทำ
"เรื่องอะไรไม่ดีก็ต้องรับ แต่ว่าผมไม่ใช่คนดี 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้วตามปกติ ส่วนเรื่องที่บอกว่าไปเอาเปียโนคืนมาจาก อาเธอร์ หลานชาย เป็นเรื่องที่ตลกที่สุด เรื่องนี้ผมเคยพูดในไลฟ์ แต่ผมไม่เข้าใจว่าพี่ๆ ผมเขาคิดอะไรกันอยู่ ผมไม่เคยทวงเปียโนหรือของหลานแม้แต่อย่างเดียว
สิ่งที่ผมทำตอนนั้นคือผมไปที่บ้านแล้วเห็นว่าเปียโนมันตั้งอยู่แล้วมันถูกตัดสายไฟ เจตนาของผมคือถามว่าให้น้าเอาไปซ่อมมั้ย แต่หลานไม่เล่นแล้ว ตัวพี่สาวผมบอกว่ามันรกบ้านผมก็เลยเอากลับมา ซึ่งของอีกหลายอย่างที่อยู่กับคุณแล้วผมไม่เคยทวงแม้แต่อย่างเดียว ใครยืมของผมไปแล้วถ้าผมต้องใช้ผมไม่เคยขอคืนนะผมซื้อใหม่"
แน็ก ยังบอกอีกว่า ณ วันนี้กับความสัมพันธ์กับพี่สาว ก็งงเหมือนกัน ว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง คุณมาบอกว่าผมทำงาน 6 ปี ใครเคยเห็นผมทำงาน 6 ปีบ้าง ผมก็ไม่ทราบว่าเป็นไปได้ไงที่เค้าบอกว่าเงินเดือนหกหลักเราต้องทิ้งงานเพื่อมาดูแลดูแลน้องชายจนน้องรวยเป็น 100 ล้าน แต่ไม่ได้สนใจพวกเขา
"โห.. มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย นี่ผมพูดในมุมของผมนะ คุณต้องนึกดีๆ ว่าตอนนั้นคุณอยู่ไหน คุณยังอาศัยบ้านผมอยู่เลย คุณไม่ได้มีงานทำนะครับแล้วก็ที่สำคัญผมแคร์พวกคุณมาก หลานผมเป็นคนเลี้ยงมาเองแต่ผมต้องมาโดนว่าผมเกาะหลาน ใช้หลานหากิน มันไม่ใช่แล้ว
ที่สำคัญผมถามตรงๆ เลยนะ ถ้าคุณทำงานอยู่ได้หกหลักคุณจะทิ้งงานเพื่อไม่ได้เงินเดือนทำไม แล้วที่สำคัญเพื่อนๆ ช่วยลองนับงานผมเลย ผมทำแค่เดือนละวันสองวัน ผมไม่เคยให้พี่สาวเป็นเงินเดือนมันไม่ใช่ครับ
กับประเด็นที่ว่าได้เงินเป็น 100 ล้าน ชีวิตผมทำงานมากี่ปีแล้วครับ แต่ละครั้งที่ผมกลับมาทำงาน ผมกลับมาด้วยตัวเองทุกครั้ง กับกามินก็ได้เงินไม่ถึง 150 ล้าน แต่ก็สูงอยู่ครับเพราะผมก็พยายามทำเต็มที่ที่สุด เพราะอย่าลืมว่าถ้าปีไหนที่ผมตั้งใจรับงานพรีเซ็นเตอร์ผมก็ได้ของผมคนเดียวเยอะอยู่แล้ว"