- 20 มี.ค. 2568
จุดเริ่มต้น มหากาพย์ติดหนี้ 62 ล้านของ "ดิว อริสรา" ตั้งใจยืมเงิน 20 ล้านกับคนรู้จัก จนลามมาถึง "ซุง" สุดท้ายจบที่ "มาดามเมนี่"
จากมหากาพย์ติดหนี้ 62 ล้านของ ดิว อริสรา ดาราสาวชื่อดัง ซึ่งทาง มาดามเมนี่ ได้นักธุรกิจสาวชื่อดัง ซึ่งออกมาโพสต์ทวงคืนทรัพย์สินมูลค่าถึง 62 ล้านบาท อีกหนึ่งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงคือ ซุง ศตาวิน นาคทองเพชร ยูทูบเบอร์หนุ่ม ผู้ที่เคยให้ ดิว อริสรา ยืมเงินในช่วงที่เธอกำลังลำบาก โดยดิวเคยบอกกับเมย์ว่า จำเป็นต้องหาเงินมาคืนซุงให้ได้ตามกำหนด ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหา
โดย ซุง ได้มานั่งพูดคุยเพื่อชี้แจงเรื่องราวในมุมของตัวเอง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาได้อัดคลิประบายว่าเคยให้ผู้หญิงคนหนึ่งยืมเงิน แต่สุดท้ายกลับต้องเดือดร้อน เพราะถูกออกหมายเรียกให้ไปให้ปากคำในคดีที่กำลังถูกแจ้งความ ซุงเล่าว่า จุดเริ่มต้น ของเรื่องนี้เกิดขึ้นจาก "พี่แทม" คนที่เขาเคารพนับถือ ติดต่อมาว่ามีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดือดร้อน ต้องใช้เงิน 20 ล้านบาท เพื่อวางเงินสดในห้าง เพื่อให้สามารถนำผลิตภัณฑ์เข้าไปขายได้ หากไม่มีเงิน ธุรกิจอาจมีปัญหา โดยพี่แทมมีเงินสดอยู่ 7.5 ล้าน ขาดอีก 12.5 ล้าน
ด้วยความที่ซุงเคยได้รับความช่วยเหลือจากพี่แทมจนทำให้เขาประสบความสำเร็จ เขาจึงยินดีช่วยเหลือ โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าคนที่ขอยืมเงินคือ ดิว อริสรา แต่พอหลังจากตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เขาถึงได้รู้ว่าคนที่ขอยืมคือดิว ซึ่งทำให้เขาตกใจ เพราะจากไลฟ์สไตล์ที่เคยเห็น ดิวดูเป็นคนที่ไม่น่าจะมีปัญหาทางการเงิน แต่เขาก็เข้าใจว่าอาจเป็นเหตุผลทางธุรกิจ
เมื่อถึงวันรับเงิน ดิวไม่ได้มาเอง แต่เป็นแม่ของดิวที่มารับเงินแทน โดยตอนแรกตกลงกันว่าจะคืนเงิน 22 ล้าน ซึ่งเป็นเงินต้นบวกดอกเบี้ย 2 ล้าน แต่ซุงบอกว่าเขาไม่ได้ต้องการกำไร จึงขอรับแค่เงินต้นเท่านั้น เพื่อช่วยเหลือจริงๆ ทางฝั่งดิวจึงนำ ต่างหูเพชรขนาดใหญ่ มาใช้เป็นหลักประกัน พร้อมบอกว่ามีมูลค่าประมาณ 20 ล้าน ซุงเห็นว่ามีของมาวางไว้จริง มีแคชเชียร์เช็คที่เซ็นชื่อไว้ มีพี่แทมเป็นคนรับรอง เขาจึงวางใจ
แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อพี่แทม นำเพชรไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ แล้วพบว่า ไม่มีบาร์โค้ดเพชร และร้านเพชรหลายแห่งลงความเห็นว่า "ไม่น่าจะใช่เพชรแท้" แม้จะไม่มีร้านไหนคอนเฟิร์มว่าปลอม ซุงจึงเริ่มเครียด เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เงินคืน จากนั้น ซุงจึงนัดคุยกับดิวโดยตรง หลังจากก่อนหน้านี้ติดต่อผ่านพี่แทมมาตลอด โดย ยื่นคำขาดให้คืนเงินภายในวันที่ 3 สิงหาคม
แต่เมื่อเลยกำหนดถึงวันที่ 6 สิงหาคม เงินก็ยังไม่ได้รับคืน จนกระทั่งวันที่ 7 สิงหาคม ดิวพิมพ์มาบอกว่า หาเงินได้เพียง 2.3 ล้าน แต่จะพยายาม ขายสร้อย BVLGARI เส้นหนึ่ง เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ เรื่องกลับพลิก เมื่อพบว่า สร้อย BVLGARI ที่ดิวจะขาย คือสร้อยของเมย์ วาสนา ที่เพิ่งได้รับมาเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นั่นหมายความว่า ดิวพูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เธอรับปากเมย์ว่าจะนำของไปฝากไว้กับ "ผู้ใหญ่ที่ซุงเคารพ" แต่ความจริงกลับนำไปจำนำ และโกหกซุงว่าสร้อยเส้นนี้เป็นของตัวเอง
ต่อมาพบว่า สร้อย BVLGARI ถูกนำไปฝากไว้ที่ร้านของ "คุณปอม" ในราคา 7 ล้านบาท ซึ่งทำให้เกิดปัญหาทางกฎหมายขึ้น เนื่องจากในสัญญาของร้านระบุว่า ผู้ฝากต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินโดยสมบูรณ์ และหากเกิดข้อพิพาททางกฎหมาย ผู้ฝากต้องรับผิดชอบ
ขณะเดียวกัน สร้อยมรกต Lotus Arts De Vivre รุ่น Zambian Emerald & Diamond Necklace มูลค่า 26 ล้านบาท ที่เป็นทรัพย์สินของเมย์ วาสนา และมีเพียงเส้นเดียวในโลก ก็ถูกพบว่า ดิวได้นำไปวางไว้กับ "คุณตูน" ซึ่งเข้าใจว่าของชิ้นนี้เป็นของดิวเอง โดยคุณตูนได้รวบรวมเงินสดให้ดิว 8 ล้านบาท
ล่าสุด คุณตูน ได้ติดต่อเมย์ วาสนา และได้นำสร้อยเส้นนี้คืนให้เจ้าของที่แท้จริงแล้ว หลังจากที่รายการโหนกระแสเผยแพร่ข่าวไป ในขณะที่ซุงยืนยันว่า ดิว คืนเงินต้น 12.5 ล้านบาทให้ครบแล้ว แต่ พี่แทมยังไม่ได้รับคืนทั้งหมด โดยเหลือหนี้อีกประมาณ 1 ล้านบาท และในตอนที่ซุงไปทวงถามดอกเบี้ย ดิวก็บอกว่า ตอนแรกตกลงกันไว้ว่าจะไม่เอาดอกเบี้ย
สุดท้าย ซุง ศตาวิน ได้ฝากข้อความถึงดิว อริสรา ว่าอยากให้ทุกคนในโลกออนไลน์ อย่าพาดพิงหรือต่อว่า "ลูกๆ ของดิว" เพราะพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และเขายังบอกดิวว่า โอกาสมีให้สำหรับทุกคนเสมอ หากในอนาคตลูกๆ ของดิวเติบโตขึ้น ซุงยินดีต้อนรับพวกเขาเข้าทำงานในบริษัทของเขา