สหรัฐฯ กลับลำสนับสนุนดูเตอร์เต ปราบยาเสพติด

ท่าทีของผู้นำฟิลิปปินส์ ทำให้ นายแดเนียล รัสเซลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐด้านกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ต้องรีบเดินทางเยือนกรุงมะนิลา

       ความขัดแย้งระหว่างประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ กับ สหรัฐฯอภิมหาอำนาจผู้เป็นมหามิตร ยังไม่จบสิ้นลงง่ายๆ โดยผู้นำฝีปากกล้าประกาศจะไม่อนุญาตให้กองกำลังของรัฐบาลออกตรวจการณ์ร่วมกับต่างชาติในทะเลจีนใต้ ซึ่งเท่ากับเป็นการยกเลิกสัญญาที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ชุดที่แล้วทำกับสหรัฐ เมื่อต้นปีนี้ นอกจากนั้นเขายังสำทับว่ากำลังพิจารณาจัดซื้ออาวุธจากรัสเซียและจีน แทนอเมริกาและพันธมิตรตะวันตกอื่นๆ ขณะเดียวกันในอีกด้านหนึ่ง จีนบอกกับผู้แทนฟิลิปปินส์ ที่ไปเยือนจีน ว่า ความสัมพันธ์สองประเทศมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ และหวังว่าจะยอมพบกันครึ่งทางเพื่อแก้ไขข้อพิพาทอย่างเหมาะสม

 

ประธานาธิบดีดูเตอร์เต ต้องการให้กองกำลังต่างๆ ของรัฐบาลฟิลิปปินส์ออกตรวจการณ์ทางทะเลเฉพาะน่านน้ำของประเทศ นั่นคือภายในอาณาเขต 12 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งเท่านั้น และเขาคัดค้านการไปตรวจการณ์ในทะเลจีนใต้ร่วมกับมหาอำนาจต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาหรือจีน เนื่องจากไม่ต้องการให้ฟิลิปปินส์ถูกดึงเข้าสู่วังวนของการเป็นปฏิปักษ์     
           ก่อนหน้านี้ ดูเตอร์เตประกาศให้กองทหารอเมริกันออกไปจากภาคใต้ของฟิลิปปินส์ โดยระบุว่าอาจกลายเป็นชนวนการก่อความรุนแรงของชาวมุสลิมในท้องถิ่น สืบเนื่องจากกองทัพอเมริกันเคยดำเนินการปราบปรามนองเลือดในอาณาบริเวณแถบนี้เมื่อครั้งยึดครองฟิลิปปินส์เป็นอาณานิคม ทั้งนี้ถือเป็นการประกาศจุดยืนต่อต้านการประจำการของกองกำลังอเมริกันในบางส่วนของฟิลิปปินส์ครั้งแรก


 

        ซึ่งจากท่าทีของผู้นำฟิลิปปินส์ ทำให้ นายแดเนียล รัสเซลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐด้านกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ต้องรีบเดินทางเยือนกรุงมะนิลาในวันจันทร์ และกล่าวหลังพบหารือกับนายเพอร์เฟ็กโต ยาไซ รมว.กระทรวงการต่างประเทศของฟิลิปปินส์ ว่ารัฐบาลสหรัฐ ให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่รัฐบาลฟิลิปปินส์ในการทำสงครามปราบปรามยาเสพติด อย่างไรก็ตาม อเมริกามีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความสูญเสียต่อชีวิตที่เกิดขึ้น “เป็นจำนวนมาก” ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่ “ไม่ปกติ”


          ทั้งนี้ รัสเซลล์ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนแรกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐซึ่งเดินทางเยือนฟิลิปปินส์หลังดูเตร์เตประกาศ “แยกทาง” กับรัฐบาลสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นหนึ่งในจุดหมายของการเดินทางเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของรัสเซลล์ในสัปดาห์นี้ ที่รวมถึงการเยือนไทยและกัมพูชา ซึ่งแน่นอนว่า ขณะนี้ สหรัฐกำลังเพลี่ยงพล้ำ กับนโยบาย ปักหมุดเอเชีย ดังนั้น สิ่งที่ สหรัฐจะทำได้ในตอนนี้คือ จะพลิกกลับสถานการณ์อย่างไร เพื่อให้ได้เปรียบ จีนในภูมิภาคแห่งนี้นั่นเอง