โรงพยาบาลปล่อยคนไข้ฉุกเฉิน รอนานกว่า 10 ชั่วโมง จนเสียชีวิต แพทย์ลงบันทึกคนไข้หายไปเอง งานนี้กล้องวงจรชี้ชัด คนป่วยนั่งรอที่เดิมตลอดทั้งคืน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข่าว กรณี ทางด้าน โรงพยาบาลลินคอล์น ในกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้ทิ้งให้ผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายบริเวณศีรษะ รอการรักษานานกว่า 10 ชั่วโมง ท้ายที่สุดแล้วทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต แต่แพทย์กลับระบุว่า ผู้ป่วยหนีการรักษา

 

 

โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อคืนวันที่ 19 กรกฎาคม 2557 หลังจากที่ทางโรงพยาบาลลินคอล์น ในกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้รับตัวนายแองเจิล ริเวรา ชาวอเมริกัน อายุ 53 ปี จากย่านบร็องซ์ นครนิวยอร์ก หลังจากที่ เขาดื่มแอลกอฮอล์และนั่งเล่นโดมิโนอยู่กับนายหลุยส์ เมดินา ผู้เป็นเพื่อน ที่ถนน E. 167th St. และเกิดการทะเลาะกัน นายหลุยส์ เมดินา จึงตีนายแองเจิล ริเวรา เข้าที่ศีรษะอย่างแรงต่อมาเมื่อรู้สึกเจ็บศีรษะมากเขาจึงได้เรียกรถพยาบาลมารับตัวไปเพื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลลินคอล์น

 

 

หลังจากมาถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ได้ลงทะเบียนให้นายแองเจิล ริเวราและนำถุงน้ำแข็งมาประคบไว้เพื่อนั่งรอแพทย์ เขาก็รออยู่เช่นนั้นและไม่ได้บ่นถึงอาการมึนศีรษะของตนเอง เขานั่งรอตั้งแต่เวลา 21.44 น. เขายังคงนั่งรอการรักษาอยู่เช่นนั้นเป็นเวลาเกือบ 10 ชั่วโมงจนถึงเช้าของวันใหม่ พยาบาลมาพบร่างของเขาล้มลงมาพร้อมกับมีเลือดไหลออกจากปาก เจ้าหน้าที่จึงนำตัวเขาเข้ารับการผ่าตัดแต่ก็สายจนเกินไป เขาเสียชีวิตแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ลงบันทึกว่า คนไข้หายออกไปจากหน่วยฉุกเฉินโรงพยาบาลอย่างเต็มใจ โดยอ้างว่าเรียกชื่อแล้ว แต่ไม่มีการตอบสนองใด ๆ จากคนใกล้ระหว่างที่คนไข้นั่งรอรับการรักษา

 

 

แต่จากการตรวจสอบพบภาพจากกล้องวงจรปิดว่า เขานั่งอยู่ตรงบริเวณม้านั่งเพื่อรอเจ้าหน้าที่มาเรียกตลอดเวลา แต่เมื่อเกิดเหตุสลดขึ้นกับเขา แพทย์จากโรงพยาบาลดังกล่าวก็ออกมายอมรับตามตรงว่า เกิดความล่าช้าในการรักษาขึ้นจริง และเขาอาจจะรอดชีวิตหากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีในช่วงสองชั่วโมงแรกของการบาดเจ็บ

 

ด้านญาติจะดำเนินคดีกับโรงพยาบาล โดยที่จะฟ้องร้องโรงพยาบาลให้ถึงที่สุดแต่ตอนนี้คดียังคงอยู่ในชั้นศาล