- 26 ก.พ. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 26 ก.พ. 61 สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า จากกรณีที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้มีการออกแถลงการณ์รับรองเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่สุดในปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ให้เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล รวมทั้งอนุมัติแผนการย้ายที่ตั้งของสถานทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอลจากนครเทล อาวิฟ ไปยัง เยรูซาเล็ม ด้วย จนกลายเป็นเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วโลก โดยนานาประเทศได้ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย และตำหนิกับความคิดของทรัมป์ นอกจากนี้ยังเกิดเหตุจราจล ปะทะกันระหว่างชาวปาเลสไตน์ กับทหารอิสราเอลจนมีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ได้กล่าวขอบคุณ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่ตัดสินใจย้ายสถานทูตสหรัฐฯจากเมืองเทลอาวีฟไปยังเยรูซาเล็มในวันที่ 14 พ.ค. ซึ่งตรงกับวันประกาศอิสรภาพของอิสราเอล
เนทันยาฮู กล่าวว่า นี่จะเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับพลเมืองอิสราเอล อีกทั้งจะเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์สำหรับรัฐอิสราเอล ในนามของรัฐบาลของอิสราเอลและประชาชนทั้งมวล ขอกล่าวขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ สำหรับความเป็นผู้นำและมิตรภาพของเขา สิ่งที่จะเกิดขึ้นนี้มีความสำคัญและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในระยะยาว เราจะร่วมเฉลิมฉลองด้วยกัน เนทันยาฮู กล่าว
สำหรับแถลงการณ์ย้ายสถานทูตในวัน 23 ก.พ. ที่ผ่านมาของสหรัฐฯ เกิดขึ้นภายหลังจากเหตุการณ์ในวันที่ 6 ธ.ค. เมื่อปีที่ผ่านมา ที่นายทรัมป์ประกาศยอมรับกรุงเยรูซาเล็มว่าเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล อันเป็นการทำลายนโยบายที่มีมายาวนานของสหรัฐฯ ที่ยึดถือว่าเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นพื้นที่ที่อิสราเอลยึดและผนวกเพิ่มในภายหลัง
ขอบคุณ FB : China Xinhua News