ดูกันว่าจะกลืนน้ำลายตัวเองอีกไหม!!! "ทรัมป์" ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมประชุมซัมมิตกับ "คิม จองอึน" ในเดือน พ.ค.

วันที่ 9 มี.ค. 61 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายชอน อวี-ยอง หัวหน้าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ ได้มีการแถลงข่าวดีกับสื่อมวลชน หลังจากที่เข้าหารือกับ พล.ท. เฮอร์เบิร์ต แมคมาสเตอร์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตอบรับข้อเสนอที่จะเข้าประชุมซัมมิตร่วมกับ นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ

 

นายชอน อวี-ยอง หัวหน้าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ (กลาง), นายซูห์ ฮุน หัวหน้าหน่วยข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ (ซ้าย)

 

โดยนายชอน เผยว่า "ผมได้แจ้งให้ท่าน (ทรัมป์) ทราบว่า ผู้นำคิมแสดงความกระตือรือร้นที่จะพบกับนายทรัมป์ โดยเร็วที่สุด โดยผู้นำคิมได้ให้คำมั่นต่อการปลดอาวุธนิวเคลียร์ และรับปากว่าจะงดการทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธในอนาคต เพื่อปูทางสู่การให้คาบสมุทรเกาหลีเป็นเขตปลอดนิวเคลียร์อย่างถาวร ซึ่งนายทรัมป์ พอใจกับข้อเสนอ และตอบตกลงพบปะผู้นำคิม เพื่อนำไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์"

ขณะที่ นางซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกหญิงทำเนียบขาว เผยว่า นายทรัมป์ได้ตอบรับคำเชิญพบปะกับ นายคิม จองอึน ซึ่งจะมีการกำหนดสถานที่และเวลาในภายหลัง แต่ทั้งนี้ทางทำเนียบข่าวออกแถลงการณ์ว่าจะยังคงมาตรการกดดันขั้นสูงสุด ทั้งในทางเศรษฐกิจและการทูตจะยังคงดำเนินต่อไป

 

 

ต่อมา นายทรัมป์ ได้มีการทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ว่า ยืนยันการพบหารือกับนายคิม จอง-อึน พร้อมกับกล่าวว่าเป็นการประชุมครั้งนี้เป็นความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ ในการเจรจาอย่างประนีประนอมตามหลักการทูต เพื่อให้เกาหลีเหนือยอมยุติโครงการพัฒนาอาวุธทั้งหมด 

ทั้งนี้ การพบปะหารือดังกล่าวนี้ของผู้นำทั้งสองประเทศคาดว่าจะมีขึ้นในเดือน พ.ค. ที่จะถึงนี้ เป็นที่น่าจับตามองของทั่วโลก ทั้งในเรื่องของสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี และความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลเกาหลีเหนือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีความตึงเครียดอย่างหนักมาหลายสมัย จนต่อเนื่องถึงยุครัฐบาลทรัมป์ โดยที่ผ่านมานั้นทั้งสองประเทศจะมีการสาดโคลนสงครามน้ำใส่กันมาหลายครั้ง ซึ่งถ้าการพบปะหารือครั้งนี้ประสบผลสำเร็จจะถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ

 

นายคิม จอง-อึน ต้อนรับนายชอน อวี-ยอง ที่กรุงเปียงยาง