กันไว้ดีกว่าแก้! 8 แนวทางลดความเสี่ยง และ วิธีดำเนินการเมื่อถูกขโมยรถยนต์เพื่อความรวดเร็ว ในการติดตามสกัดจับคนร้าย!

     ขณะนี้ สถานะการณ์การถูกโจรกรรมรถยนต์ในมืองไทยนั้นมีเกิดขึ้นบ่อย สถิติรถยนต์หายนับวันจะพุ่งสูงมากขึ้นเรื่อยๆ  การป้องกันการถูกโจรกรรมรถยนต์ ความเป็นจริงแล้วนั้นไม่มีแนวทางไหนที่จะป้องกันได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ว่า 8 แนวทางนี้ ก็ช่วยลดความเสี่ยงที่จะหายได้มากเลยทีเดียว ซึ่งสามารถทำเป็นดังต่อไปนี้

 

 

1. พื้นที่จอดรถจะต้องมีแสงไฟมากพอ ควรจะจัดตั้งโคมให้ส่องสว่างสามารถเห็นทั้งในและก็นอกรั้วบ้าน หากต้องหยุดรถยนต์นอกรั้วบ้าน ควรจะหยุดติดขอบทางหน้าบ้านให้เห็นได้ง่าย ถ้าหากหยุดรถยนต์ข้างในบ้านให้หันด้านหลังรถยนต์ออกด้านนอก

2. ล็อคกุญแจรถยนต์เสมอไม่ว่า จะในบ้าน-นอกบ้าน จอดนาน-ไม่นาน ด้วยสารพันแนวทางล็อก กี่ชั้นก็จัดไปตั้งแต่ ล็อคพวงดอกไม้ ล็อคเกียร์ ล็อคล้อ ล็อคเบาะ หรือล็อคเบรคครัช เพื่อจะช่วยทำให้พวกขโมยยุ่งยาก ด้วยเหตุว่ามิจฉาชีพและก็ขโมยโดยมากก็คล้ายกับนักลงทุนทั่วๆไปหมายถึงชอบถูกใจอะไรที่ “กล้วยๆ” มากยิ่งกว่า “ยากๆ” แล้วก็จะเลือกรถยนต์ที่ขโมยได้ง่ายดายเสียยิ่งกว่าในเวลาเท่าๆ กันเสมอ
 

3. ควรจะจัดตั้งกล้องวงจรปิด หรือระบบความปลอดภัยทั้งในตัวบ้านรวมทั้งโรงรถ และก็จัดตั้งสิ่งกีดขวาง อย่างเช่น ถังที่เวลาเลื่อนจะกำเนิดเสียงดัง อื่นๆอีกมากมาย ขวางไว้อีกชั้นยอด

4. แม้จะต้องหยุดรถยนต์ทำธุระควรจะเลือกที่หยุดอย่างละเอียด อย่าหยุดรถยนต์ใกล้รถบรรทุก หรือรถยนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งจะนำมาซึ่งที่อับสายตา มิจฉาชีพจะปฏิบัติงานได้ง่ายขึ้น ควรจะเลือกหยุดในจุดที่มีคนคับคั่ง และก็หยุดในที่ที่มีแสงสว่างสว่างพอเพียง

5. อย่าประมาทโดยการทิ้งกุญแจไว้ในรถ แม้คุณแค่เพียงหยุดไปทำธุระ ในพื้นที่ที่เคยชิน ดังเช่นว่าถือของในบ้าน หรือร้านขายของข้างบ้าน เมื่อจำต้องลงจากรถยนต์อย่าทิ้งกุญแจไว้ในรถ ไม่ว่าในกรณีใดๆก็ตามหรือมีความคิดว่าใช้เวลาเดี๋ยวเดียวอาจช่างเถอะหรอก บางทีอาจทำให้มิจฉาชีพมือไวมาขโมยรถยนต์ของคุณไปได้อย่างราบรื่น
 

 

6. ตรวจทานให้มั่นใจทุกคราวก่อนเดินจากไป ว่าล๊อคประตูรถยนต์เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว สำหรับรถยนต์บางรุ่นที่มีระบบระเบียบ Keyless Entry ใช้มือเปิดประตูแบบสัมผัส ก็เพียงก้มตัวไปดูว่าตัวล๊อคด้านในนั้นถูกกดลงแล้ว เพราะว่าเนื่องมาจากเดี๋ยวนี้โจรมีวัสดุส่งเสียงรบกวนคลื่นรีโมทของรถยนต์ แม้ผู้ครอบครองรถยนต์ไม่ตรวจทานอย่างระมัดระวังเรื่องราว รถยนต์หาย บางทีอาจเกิดขึ้นกับคุณอย่างไม่ทันตั้งตัว

7. เก็บสิ่งที่มีค่าให้มิดชิดที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำกระเป๋าสำหรับถือไปวางไว้ใต้เบาะคนนั่ง แล้วปล่อยให้สายกระเป๋าโผล่ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ รถยนต์คุณอาจจะโดนทุบกระจก หรือบางทีอาจโดนขโมยรถยนต์ไปทั้งคันก็ได้ ทางที่ดีข้าวของชนิดกระเป๋า ข้าวของราคาแพง หรือถุงที่มีลักษณะดูมีราคา ควรจะใส่ไว้ที่ด้านหลังกระโปรงรถยนต์จะดีเยี่ยมที่สุด

8. ใช้เทคโนโลยีการคุ้มครองรถยนต์แบบใหม่ๆอาทิเช่น ระบบติดตามรถยนต์ที่ถูกขโมย ด้วยเรดาร์นำทาง GPS ที่จะมีตัวส่งสัญญาณให้รู้ได้เลยว่า ช่วงนี้รถยนต์ที่ถูกลักขโมยวิ่งอยู่ที่ใด ระบบจะติดต่อประสานงานกับ GPS ของตำรวจเพื่อติดตาม หรือจะเป็นระบบที่ปลดปล่อยควันหมอกออกมา ให้ขโมยตกอกตกใจแล้วก็รีบหลบซ่อนไป แล้วก็ระบบที่เมื่อรถยนต์ถูกลักขโมย ระบบจะส่งสัญญาณมายังโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ครอบครองรถยนต์ ว่ารถยนต์กำลังถูกลักขโมย เพื่อผู้ครอบครองรีบโทรแจ้งตำรวจมาสกัดจับได้

 

 

เมื่อรถหายแล้วควรทำอย่างไร

     1. แจ้ง จส.100 สายด่วนรถหายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-7119160 เพื่อออกอากาศในสถานีวิทยุเพื่อมีผู้ที่เห็นรถที่หายขับอยู่บนท้องถนน
     2. โทรแจ้ง ศปร.ตร ที่เบอร์ 1192 เพื่อความรวดเร็วในการกระจายข่าวไปในทุกหน่วยงานในพื้นที่
     3. แจ้งความที่โรงพัก และสถานีตำรวจใกล้บ้านให้รวดเร็วที่สุด เพื่อตำรวจได้รีบออกติดตามคนร้าย
     4. บอกต่อเพื่อนฝูง คนสนิทที่รู้จักทั้งหมด ให้รีบกระจายข่าวเพื่อไล่ออกติดตาม
     5. ติดตาม และ สอดส่องในจุดที่สันนิฐานว่าคนร้ายใช้เส้นทางใดหลบหนี หรือพบเห็นบุคคลต้องสงสัย ให้รีบแจ้งความดำเนินคดี

 

 

 

 

ขอบคุณ : softbizplus , ninethanwa