พบสัตว์ประหลาดใต้ทะเลขึ้นมาเกยหาดในรัสเซีย อาจเป็น "globster" (คลิป)

สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ มีขนยังไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไรที่มาเกยหาดในรัสเซีย สัตว์ประหลาดตัวนี้มีขนรกรุงรัง และมีกลิ่นเหม็น ตัวใหญ่กว่าคนราว 3 เท่า ลอยขึ้นมาบนชายหาด ใกล้กับเมืองพัคฮาชี จากทะเลแบริ่งบนคาบสมุทร คัมชัตคา ริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก

หญิงที่พบคือ สเวตลานา จึงได้ถ่ายภาพและคลิปวิดีโอแล้วนำไปแชร์ในยูทูบ ตั้งชื่อว่า Kamchatka sea monster

หลายคนได้ไปตรวจดูสัตว์ประหลาดตัวนี้ ซึ่งมีขนสีเทาและขาว มีหางหรืออาจเป็นหนวด แต่ไม่พบลักษณะที่เป็นหัวหรืออวัยวะส่วนอื่นๆ

สเวตลานา กล่าวว่า สิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับเธอก็คือ สัตว์ประหลาดตัวนี้มีขนรกรุงรังเป็นหลอดหรือท่อ ดูคล้ายกับสายเคเบิลไฟเบอร์ออพติก ซึ่งเธอก็ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นสัตว์ประหลาดในยุคดึกดำบรรพ์ จึงอยากขอร้องให้นักวิทยาศาสตร์ช่วยตรวจสอบให้ด้วย

"สัตว์ประหลาดตัวนี้ตัวหนักมาก ยากที่จะเคลื่อนย้ายไปไหน นี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด ฉันแชร์เรื่องนี้กับคุณอย่างไม่น่าเชื่อ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือมันถูกปกคลุมด้วยเสื้อคลุม บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตโบราณบางอย่าง
ถ้าฉันส่งนักวิทยาศาสตร์มายังที่แห่งนี้ พวกเขาจะมองไปที่ความมหัศจรรย์นี้ บางทีทะเลอาจจะเป็นปริศนาก็ได้ 
หรือมันก็จะเน่าและทิ้งความทรงจำ และนี่จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ยังไม่มีใครได้สำรวจโดยมนุษย์ ในความกว้างใหญ่ของมหาสมุทร"

 

 

 

มีคนสันนิษฐานว่าสิ่งที่พบคือ "globster" ซึ่งเป็น glob ของมวลอินทรีย์ที่ไม่สามารถระบุได้ ซึ่งสามารถพบได้บนชายฝั่งทั่วโลก หรือแหล่งน้ำอื่น

ลักษณะของกล็อบสเตอร์ก็คือ ต้องเป็นซากที่ยากจะระบุประเภทได้ว่า เป็นของสัตว์ชนิดใด

คำนี้ถูกใช้เป็นครั้งแรกโดยอีวาน ที. แซนเดอสัน ในปี ค.ศ. 1962 เพื่อใช้เรียกซากลึกลับที่เกยฝั่งทะเลด้านตะวันตกของรัฐแทสเมเนียในปี ค.ศ. 1960 ซึ่งซากนี้ "ไม่มีดวงตา ไม่มีส่วนหัว และไม่มีโครงกระดูก"

ลักษณะของกล็อบสเตอร์มักจะผิดจากลักษณะที่คนทั่วไปคุ้นเคยมาก และมักทำให้เป็นข้อถกเถียง แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะสามารถระบุประเภทได้แล้ว

กล็อบสเตอร์บางซากจะมีครีบ หนวดระยาง หรือกระดูกที่ทำให้สามารถคาดเดาประเภทได้ แต่บางครั้งก็ไม่มีลักษณะ

 

 

 

กล็อบสเตอร์ มักถูกเชื่อมโยงเข้ากับสัตว์ประหลาดในมหาสมุทร จึงเป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาสัตว์ลึกลับสนใจกันมาก

กล็อบสเตอร์จำนวนมาก ได้รับการระบุว่าเป็นซากของหมึกยักษ์ แต่ส่วนใหญ่แล้วต่อมาก็ได้รับการพิสูจน์ว่า
เป็นซากของวาฬหรือปลาฉลามขนาดใหญ่ และบางครั้งก็เป็นชั้นไขมัน ที่หลุดออกจากซากของวาฬที่กำลังเน่า

บางซากก็ได้รับการระบุว่า เป็นซากของเพลสซิโอซอร์ ที่ต่อมาก็กลับเป็นซากของปลาฉลามบาสกิง แต่ก็มีกล็อบสเตอร์ ที่ไม่สามารถระบุประเภทได้ ซึ่งกล็อบสเตอร์บางซากก็ได้เน่าเปื่อย จนไม่อาจพิสูจน์หรือใช้เป็นหลักฐาน ในการพบสัตว์สายพันธุ์ใหม่ได้

 

 

 

 

(Cr. เพจ กรุงเทพ กรุงเทพ)