ชาวบ้านโวย! ไม่พอใจหลังจีนออกกฎห้ามพาสุนัขออกมาเดินเล่นใน"ตอนกลางวัน"

เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และโต้เถียงขึ้นหลังเว็บไซต์ของรัฐบาลท้องถิ่นเมืองเหวินซาน มณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ได้ออกประกาศว่าด้วยเรื่องการพาสุนัขออกมาในที่สาธารณะเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่าห้ามเจ้าของพาสุนัขออกมานอกเคหสถานในตอนกลางวัน และห้ามไม่ให้นำสุนัขเข้าสู่พื้นที่สาธารณะเช่น สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ โรงเรียน รวมถึงยานพาหนะการขนส่งสาธารณะส่วนใหญ่ และมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ออกประกาศ
 

เจ้าของสุนัขถูกสั่งห้ามไม่ให้พาสุนัขออกมาเดินเล่นระหว่างเวลา 7:00 น. ถึง 22:00 น. และต้องผูกสายจูงที่มีความยาวไม่เกินหนึ่งเมตร และเมื่ออยู่นอกบ้านคนที่จูงต้องเป็นผู้ใหญ่เท่านั้น นอกจากนี้พวกเขายังไม่ได้รับอนุญาตให้นำสุนัขของตนไปใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ยกเว้นรถแท็กซี่ และต้องได้รับการอนุญาตจากคนขับแท็กซี่ก่อนด้วย

 

 

ข้อกำหนดล่าสุดถูกมองว่าเป็น "ข้อจำกัดที่เข้มงวดที่สุด" เท่าที่เคยมีมาสำหรับการพาสุนัขออกมาเดินเล่น ซึ่งกล่าวว่าเป็นไปเพื่อ"ความปลอดภัยของประชาชน"  กฎหมายนี้เกิดขึ้นพร้อมๆ กับมาตรการระบบเครดิตทางสังคมสำหรับผู้เป็นเจ้าของสุนัขรวมถึงกฎระเบียบโดยรวมในการเลี้ยงสุนัขของชาวจีนในเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับกฎหมายเพื่อการควบคุม และข้อกำหนดเรื่องสุนัขขนาดใหญ่ในใจกลางเมืองอย่างเช่น ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้

 

 

กฎใหม่นี้ทำให้เกิดกระแสไม่พอใจในหมู่ชาวเน็ตผู้ใช้แพลตฟอร์มเวยป๋อของจีน แม้ว่าพวกเขาบางคนดูเมือนจะได้ประโยชน์จากการเป็นกลุ่มคนที่ไม่เลี้ยงสุนัข แต่ก็ได้แสดงความคิดเห็นคัดค้านโดยกล่าวว่า กฎหมายนี้ละเลยสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา และเป็นทางออกชั่วคราวที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผล
 

ชาวเน็ตเจ้าของบัญชีเวยป๋อ @Guipipi แสดงความเห็นว่า "เสียงดังของเด็กก็สร้างความรบกวนเช่นกัน ดังนั้นเด็กก็ห้ามออกไปไหนจนกว่าจะถึงเวลา 22.00 น. ใช่หรือไม่?" โดยมีผู้กดไลค์ให้คอมเมนท์นี้ถึง 1,600 คน "ดังนั้นคนเลี้ยงหมาสามารถพาหมาไปเดินเล่นได้เฉพาะช่วงเวลาที่พวกเขาควรจะนอนพักผ่อนแล้วงั้นสินะ?" ผู้ใช้งานเวยป๋อรายอื่นเสริม

 

 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของเมืองออกมากล่าวกับสำนักข่าว The Paper ของจีนประจำเซี่ยงไฮ้ว่า "ไม่มีการโต้แย้ง" เกี่ยวกับกฎควบคุมผู้เลี้ยงสุนัขดังกล่าว พร้อมเสริมว่าหน่วยงานรัฐต้องดำเนินการป้องกันก่อนที่จะมีคนได้รับบาดเจ็บ

 

พร้อมกันนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของเมืองก็ออกมาชี้แจงว่า จุดมุ่งหมายที่แท้จริงของข้อกฎหมายนี้คือลดการปะทะกันเพราะเจ้าของสุนัขที่ขาดความรับผิดชอบ และลดการถูกโจมตีโดยสุนัขจรจัด โดยตั้งแต่ประกาศกฎนี้จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบว่ามีการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาสุนัขที่ก่อให้เกิดความรำคาญและความวุ่นวายแก่ประชาชนแต่อย่างใด