- 14 มิ.ย. 2562
สหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(13พ.ย.) ประณามเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันว่า "ไม่อาจยอมรับได้" และบอกกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าเหตุการณ์ในอ่าวโอมานนั้นโหมกระพือความกังวลอย่างร้ายแรง อย่างไรก็ตามทางรัสเซียเรียกร้องอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเป็นฝีมือใคร หวั่นซ้ำเติมสถานการณ์ที่ร้อนระอุอยู่ก่อนแล้วในภูมิภาคตะวันออกกลาง
เรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำถูกโจมตีในอ่าวโอมานวันพฤหัสบดี(13พ.ย.) ส่งผลให้ลำหนึ่งเกิดไฟลุกไหม้และทั้งสองลำลอยเคว้งอยู่กลางทะเล ดันราคาน้ำมันพุ่งทะยาน ท่ามกลางความกังวลต่ออุปทานพลังงานในตะวันออกกลาง อิหร่านบอกว่าพวกเขาได้ช่วยเหลือลูกเรือ 21 คนของเรือ Kokuka Courageous ซึ่งมีญี่ปุ่นเป็นเจ้าของ และลูกเรือ 23 คนบเรือ Front Altair สัญชาตินอร์เวย์ แต่ทางสหรัฐฯโต้แย้งว่าทหารเรือของพวกเขาเป็นผู้ช่วยเหลือลูกเรือบางส่วน
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าอะไรเป็นสาเหตุของเหตุระเบิดและไฟไหม้ครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านยืนยันกับบีบีซีว่าอิหร่านไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ "มีบางคนพยายามบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับประชาคมนานาชาติ"
คณะผู้แทนประจำคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเผยว่าสหรัฐฯได้แจ้งกับพวกเขาว่าจะหยิบยกประเด็นความปลอดภัยและเสรีภาพในการล่องเรือในอ่าวเปอร์เซียเข้าหารือระหว่างการประชุมลับของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถัดจากนี้ในวันพฤหัสบดี(13เม.ย.) ในขณะที่อเมริกาประณามเหตุโจมตีดังกล่าวว่าไม่อาจยอมรับได้
โจนาธาน โคเฮน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ บอกกับที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งประชาชาติ ว่าด้วยเรื่องร่วมมือระหว่างสหประชาชาติกับองค์การสันนิบาตอาหรับในตอนเช้าวันพฤหัสบดี(13เม.ย.) ว่า "มันไม่อาจยอมรับได้ที่ฝ่ายหนึ่งฝายใดโจมตีเรือสินค้าและเหตุโจมตีเรือในอ่าวโอมานในวันนี้ เพิ่มความกังวลอย่างร้ายแรง" เขากล่าว "รัฐบาลสหรัฐฯกำลังมอบความช่วยเหลือและจะประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง"
อันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติเตือน ณ ที่ประชุมว่าโลกไม่อาจปล่อยให้เกิดการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย "ผมขอประณามอย่างหนักหน่วงต่อเหตุโจมตีเรือพลเรือน ต้องหาข้อเท็จจริงและผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน" เขากล่าว เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุโจมตีครั้งที่ 2 ในเวลาห่างกันไม่ถึงเดือนใกล้ช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางน้ำยุทธศาสตร์หลักสำหรับอุปทานน้ำมันโลก
สหรัฐฯและซาอุดีอาระเบียกล่าวโทษอิหร่านสำหรับเหตุโจมตีเมื่อเดือนที่แล้ว โดยการใช้ทุ่นระเบิดประเภทที่ใช้ติดกับตัวเรือ (Limpet Mine)เล่นงานเรือบรรทุกน้ำมัน 4 ลำนอกชายฝั่งอาหรับเอมิเรตส์ คำกล่าวหาที่ทางเตหะรานปฏิเสธ อาเหม็ด อาบูล เกอิต เลขาธิการสันนิบาตอาหรับ เรียกร้องคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติลงมือกับพวกที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้เพื่อธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงในอ่าวเปอร์เซีย "บางฝ่ายในภูมิภาคพยายามโหมกระพือไฟในภูมิภาคและเราต้องรับรู้ในเรื่องนี้" เขาบอกกับ 15 สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่ไม่ได้พาดพิงประเทศใด
ด้านอังกฤษระบุว่ารู้สึกกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับเหตุโจมตี ในขณะที่เยอรมนี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ลงนามเช่นเดียวกับอังกฤษในข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ทำไว้กับอิหร่าน บอกว่ามันเป็นสถานการณ์ที่อันตรายและเรียกร้องทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆที่อาจทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย อย่างไรก็ตามในส่วนของรัสเซีย โฆษกของวังเครมลินระบุในวันพฤหัสบดี(13มิ.ย.) ว่ายังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุปว่ามันเป็นเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในอ่าวโอมานหรือไม่ เนื่องจากยังมีข้อมูลข่าวสารไม่มากพอ "ไม่มีใครรู้ว่าอะไรอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้"
อนึ่งความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางพุ่งสูงขึ้น นับตั้งแต่สหรัฐฯถอนตัวจากข้อตกลงที่อิหร่านทำไว้กับมหาอำนาจโลก ซึ่งมีเป้าหมายจำกัดความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของเตหะรานแลกกับการปลดเปลื้องมาตรการคว่ำบาตร