คดีรถชนอันแสนปวดหัว เหยียบเบรก-ดึงเบรกมือไม่ได้ เพราะในรถมีแต่ขยะ

คนที่มีรถขับนั้นก็มีกันอยู่ 2 ประเภทคือคนที่เก็บกวาด ทำความสะอาดรถอยู่เรื่อยๆ กับคนที่ปล่อยสภาพรถไปตามยถากรรม เอาอะไรขึ้นมาวางหรือมากินก็ไม่ค่อยเก็บกวาดกันเท่าไหร่ แต่ว่ากันตรงๆ แล้ว แม้รถมันจะเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล เป็นพื้นที่ของเจ้าของรถเอง และมันก็ไม่ผิดที่จะแสดงความเป็นตัวเองเหมือนเราแต่งบ้าน เวลาอยู่คนเดียวเราจะรกอย่างไรก็ได้

แต่เวลาแขกไปใครมามันก็จะสร้างภาพจำที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แถมข้อเสียอีกอย่างก็คือ เวลาเกิดอะไรคับขันแบบไม่คาดคิดขึ้นมา ไอ้ความรกนั้นมันอาจจะทำให้เกิดอะไรเลวร้ายขึ้นก็ได้นะ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่เคาน์ตี้ Hampshire ประเทศอังกฤษ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีอุบัติเหตุรถชนกันเกิดขึ้น จึงรีบรุดหน้าไปยังที่เกิดเหตุ

พอไปถึงที่ก็ต้องตกตะลึงกับสภาพที่เห็น แต่ไม่ใช่เพราะรถชนกันเละเทะอะไรกันหรอกนะ แต่เป็นสภาพภายในของรถคันไปพุ่งไปชนชาวบ้านนั่นแหละ เพราะข้างในมันเต็มไปด้วยข้าวของและขยะต่างๆ มากมาย ทั้งถุงผ้า หนังสือพิมพ์ กระดาษห่ออาหาร กระถางต้นไม้ เครื่องใช้ไฟฟ้าเช่น พัดลม ถังน้ำ เก้าอี้พลาสติกตัวเล็กที่วางหงายไว้ และอื่นๆ อีกมากมาย

เอาเป็นว่าดูภาพกันเอาเองดีกว่า เรียกว่ามันเกินคำว่ารกไปไม่น้อยเลยทีเดียว จะว่ากำลังย้ายบ้านรึก็ไม่น่าใช่ แต่จะอย่างไรก็แล้วแต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นก็เป็นเพราะความรกแบบที่เห็นนี่แหละ เพราะในระหว่างที่เจ้าของรถ(ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม) พยายามจะจอดรถข้างทาง แต่ปัญหาก็คือ ขยะภายในรถ ทำให้รถของเขาไม่สามารถเหยียบเบรกได้ และพอจะใช้งานเบรกมือเพื่อหยุดรถแทน เขาดันเอื้อมไปหาเบรกมือไม่ได้อีก เพราะมันมีแต่อะไรก็ไม่รู้ระเกะระกะไปหมดนี่แหละ

สุดท้ายเลยดึงเบรกมือไม่ทัน รถก็ชนเข้ากับรถที่จอดอยู่บริเวณนั้นซะแล้ว ส่วนทางด้านชาวเน็ตที่ได้เห็นทวีตของทางกรมตำรวจต่างก็มากันซูมเข้าซูมออก เจอของนู่นนั่นนี่อีกเยอะแยะมากมาย เหมือนกำลังเล่นเกมจับผิดภาพกันยังไงยังงั้น

จริงๆ แล้วมันก็มีอาการป่วยทางจิตในลักษณะนี้อยู่จริงๆ ซึ่ง 1 ในนั้นคือ Hoarding Disorder ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยชอบสะสมของ ไม่ว่าจะใช้ได้หรือไม่ได้ก็ตาม หลายคนก็คงเคยมีอารมณ์คล้ายๆ กันเวลาเก็บกวาดบ้าน ที่เรารื้อข้าวของเก่าเก็บ ที่แม้จะไม่ได้ใช้งานก็ทิ้งไม่ลง มันจะมีความรู้สึกว่า “อาจจะมีวันที่ได้ใช้ขึ้นมาก็ได้” แล้วสุดท้ายเราก็มีขยะเต็มบ้าน เจ้าของรถในเรื่องนี้ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นโรคนี้ ดังนั้นใครที่มีอาการแบบนี้ หรือมีสภาพบ้านหรือรถใกล้เคียงกับในข่าวนี้ล่ะก็ ลองปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาดูนะจ๊ะ