สหรัฐฯประกาศยุติความสัมพันธ์ WHO ตอกกลับจีนสั่งตรวจสอบธุรกิจจีนในสหรัฐ ยกเลิกวีซานักศึกษา

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (29 พ.ค.) ซึ่งมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับจีนหลายเรื่อง ทั้งการประกาศตัดความสัมพันธ์กับองค์การอนามัยโลก ไปจนถึงการตอบโต้จีนที่ออกกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่เพื่อบังคับใช้ในฮ่องกง 

          โดยในกรณีขององค์การอนามัยโลก ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกมีการจัดการสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ที่ไม่ดี ช่วยจีนปิดข่าวการแพร่ระบาด ทั้งที่จีนสนับสนุนงบประมาณน้อยกว่าสหรัฐฯ โดยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม สหรัฐฯ มีหนังสือแนะนำให้ปฏิรูปองค์กรแต่ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้น จึงต้องยุติความสัมพันธ์ในวันนี้

 

          สหรัฐฯ เป็นประเทศที่ให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่องค์การอนามัยโลกมากที่สุดคือ 115 ล้าน 8 แสนดอลลาร์ (ประมาณ 3,684 ล้านบาท) รองลงมาคือจีน 57 ล้าน 4 แสนดอลลาร์ (ประมาณ1,826 ล้านบาท) และญี่ปุ่น 41 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ1,304 ล้านบาท)

 

          ส่วนกรณีความสัมพันธ์กับจีนยิ่งเพิ่มความตึงเครียดมากขึ้น เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ สั่งการให้เริ่มกระบวนการเพิกถอนสถานะพิเศษทางเศรษฐกิจที่มอบแด่ฮ่องกง และจะออกมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงที่จะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ มีความเห็นว่าจีนไม่รักษาข้อตกลงเกี่ยวกับอำนาจปกครองตนเองของฮ่องกง ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับชาวฮ่องกง, ชาวจีนและทั้งโลก 

       

  นอกจากนี้แล้วประธานาธิบดีทรัมป์ยังลงนามในประกาศปกป้องงานวิจัยของมหาวิทยาลัยต่างๆ ด้วยการระงับการเดินทางเข้าประเทศของนักศึกษาชาวจีนที่ถูกระบุว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน คำสั่งนี้มีผลให้นักศึกษาจีนจำนวน 3,000-5,000คนจากประมาณ 360,000 คน ที่กำลังศึกษาในสหรัฐฯถูกยกเลิกวีซาและต้องเดินทางกลับประเทศ ส่วนผู้ที่อาศัยอยู่นอกสหรัฐฯในเวลานี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าสหรัฐฯ

CR.js100