- 27 ก.ค. 2563
กลายเป็นเรื่องราวที่โด่งดังจนชาวเน็ตให้ความสนใจไปทั่วโลก เมื่อ มิจฉาชีพปลอมหน้าเป็นชายชรา แถมยังปลอมใบขับขี่ และขโมยเงินลูกค้ากาสิโนผ่านตู้อัตโนมัติ ซึ่งกว่าจะรู้สูญเงินไปแล้วกว่า 3 ล้านบาท
กลายเป็นเรื่องราวที่โด่งดังจนชาวเน็ตให้ความสนใจไปทั่วโลก เมื่อ มิจฉาชีพปลอมหน้าเป็นชายชรา แถมยังปลอมใบขับขี่ และขโมยเงินลูกค้ากาสิโนผ่านตู้อัตโนมัติ ซึ่งกว่าจะรู้สูญเงินไปแล้วกว่า 3 ล้านบาท
โดย จอห์น คริสโตเฟอร์ คอลเลตติ ชาวเมืองฮาร์เปอร์วูดส์ รัฐมิชิแกน ถูกจับกุมในหลายข้อหา จากการขโมยกดเงินกว่า 1 แสนดอลลาร์ (กว่า 3 ล้านบาท ) ด้วยวิธีแยบยล ใช้หน้ากากยางปลอมหน้าเป็นชายชรา ปลอมใบขับขี่ และขโมยตัวตนด้วยการซื้อข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อจากอินเทอร์เน็ต ก่อนนำไปใช้ถอนเงินจากตู้อัตโนมัติบ่อนกาสิโน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) เปิดสอบสวนโดยทำงานร่วมกับเอ็มจีเอ็ม แกรนด์ กาสิโน พบลูกค้า 10 ราย สูญเงินรวมกันประมาณ 1 แสนดอลลาร์ช่วง 26 เม.ย-27 พ.ค.2562 ก่อนส่งเรื่องให้ตำรวจรัฐมิชิแกนดำเนินการต่อ ที่ต่อมาพบผู้ต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิด แต่ทุกครั้ง ปรากฏเป็นภาพบุคคลสวมหน้ากากดูคล้ายกับผู้สูงอายุผิวขาว สวมหมวก ใส่แว่นตา มีครั้งหนึ่ง คอลเลตติ ถอนเงิน 15 ครั้ง ครั้งละ 2,000 ดอลลาร์ รวม 3 หมื่นดอลลาร์ หลังจากนั้น เข้าไปในร้านอาหารในคราบคนแก่ 10 นาที กลับออกมาในเสื้อผ้าชุดใหม่ ถือถุงพลาสติกสีดำ ขึ้นรถแท็กซี่มุ่งหน้าไปที่กรีกทาวน์ ในเมืองดีทรอยท์
ตู้กดเงินอัตโนมัติ เป็นบริการธุรกรรมที่บ่อนกาสิโนสำหรับกดเงินล่วงหน้า ถอนเงินสด แลกตั๋ว และอื่นๆ ลูกค้าจะต้องใช้ใบขับขี่ หมายเลขประกันสังคม 4 ตัวท้าย และเบอร์โทรศัพท์มือถือ เหยื่อทุกรายของคอลเลตติคือลูกค้าที่ลงทะเบียนเปิดบัญชีธนาคาร เชื่อมกับบริการของGlobal Payments Game Services บริษัทที่ดำเนินการตู้กดเงินในกาสิโน
คอลเลตติซื้อข้อมูลลูกค้าจากอินเทอร์เน็ต ปลอมใบขับขี่ และพรางตัว โดยแต่ละครั้ง จะถอนเงินจำนวนไม่มาก เพื่อไม่ให้ผิดสังเกต จึงใช้เวลาเกือบ 1 ปีกว่าจะจับตัวได้และไม่ใช่จับได้ที่มิชิแกน ตำรวจเข้าจับกุมคอลเลตติ วัย 55 ปี ฐานขโมยตัวตนที่คาสิโน Prairie Band Potawatomi Tribal ในรัฐแคสซัส ขณะถอนเงิน 2 หมื่นดอลลาร์ในคราบคนแก่ แต่เมื่อรปภ.เข้าไปสอบถามและขอดูเลขประกันสังคม เขาขอตัวไปเข้าห้องน้ำ และถอดอุปกรณ์พรางตัว จากกล้องวงจรปิด คอลเลตติออกจากกาสิโนโดยเห็นได้ชัดว่าด้านหน้ากางเกง มีความนูนออกมา เชื่อว่าเป็นหน้ากากหน้าเทียมที่เขาใช้ก่อเหตุ
พนักงานสอบสวนค้นรถของเขายังพบหน้ากากหน้าเทียม 4 ชิ้น เสื้อผ้า คอมพิวเตอร์แทบเล็ต แฟลชไดรฟ์ เงินปลอม หนังสือว่าด้วยวิธีหนีความผิด หน้ากากอนามัย กระเป๋าใส่เอกสารและกระป๋องสี ในแฟลชไดรฟ์พบไฟล์เอกสารปลอมมากมาย ประวัติอาชญากรรมของบุคคล วิธีปลอมเงิน ลายเซ็น และตารางเอ็กซ์เซลรายชื่อบุคคลกว่าพันราย ทั้งยังพบใบขับขี่ 83 ใบ บัตรประกัน 14 ใบ และอื่นๆ
มิจฉาชีพวัย 55 ปี ถูกแจ้งข้อหายักยอก ขโมยตัวตน ฉ้อฉลและกิจกรรมเกี่ยวข้องกับการเข้าถึงอุปกรณ์สื่อสาร ศาลนัดไต่สวนฝากขัง 30 ก.ค.
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล