ครอบครัวมะกันตั้งวงกินเลี้ยง 14 คน ไม่ทันรู้ตัวว่ามีคนติดเชื้อ โควิด-19 รวมอยู่ในนั้น

จากกรณีเว็บไซต์ โกฟันด์มี รายงานเรื่องราวของนายโทนี กรีน ซึ่งอาศัยในเมืองดัลลัส เปิดเผยว่าหลังจากมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่บังคับใช้หลายเดือนถูกยกเลิก เขาและคู่ชีวิตที่อยู่ด้วยกันนาน 9 ปี จึงจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำโดยมีพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายมาร่วมงานด้วย ซึ่งทั้งหมดไม่ได้สวมหน้ากาก เพราะคิดว่าช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่เลวร้ายได้ผ่านพ้นไปแล้ว เปิดเศรษฐกิจแล้ว และไม่มีใครป่วยด้วย แต่ในวันรุ่งขึ้น เขาตื่นมากลับรู้สึกไม่สบาย นอกจากนั้นภรรยาของเขาและพ่อแม่ก็ป่วยด้วย

กรีน เล่าว่า ครอบครัวของภรรยาเดินทางจากเมืองดัลลัสไปที่เมืองออสติน เพื่อเยี่ยมหลานคนแรกที่เพิ่งลืมตาดูโลก นอกจากนี้ยังมีสมาชิกคนอื่นในครอบครัวมาเยี่ยมด้วย และในคืนนั้นราฟาเอล เซฮา พ่อตาของกรีนเริ่มมีอาการป่วย และพ่อแม่ของเด็กแรกเกิดก็เริ่มป่วยและผลตรวจพบว่าติดโควิด-19 แต่ทารกไม่ติด ต่อมาแม่ยายของกรีนก็ป่วยด้วย สุดท้ายทั้งกรีนและพ่อตา ที่ติด โควิด-19 ก็ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา

กรีน วัย 43 ปี เล่าว่า เขาได้บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเวบไซต์โกฟันด์มี เพื่อระดมเงินบริจาคเป็นค่ารักษาพยาบาลสำหรับพ่อตา ที่ติดโควิด-19 ทำให้ปอดอักเสบและต้องใช้เครื่องหายใจ นอกจากนี้แม่ของพ่อตาของกรีนก็เข้าโรงพยาบาล และรักษาตัวในห้องที่ติดกับลูกชายและเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 โดยงานศพจัดขึ้นในอีก 2 วันถัดมาและมีญาติไปร่ามงานได้เพียง 10 คน

กรีนยอมรับว่า เขาเสียใจที่จัดงานเลี้ยงคืนนั้น และมีหลายอยางที่เขาจะไม่ทำแบบนั้น ขณะนี้สมาชิก 12 คนจาก 14 คนที่ป่วยหายดีแล้วหรือกำลังรักษาตัวอยู่