- 31 ก.ค. 2563
เกิดเหตุการณ์สลดในต่างแดนอีกครั้ง เมื่อคนขับรถบัสในเยอรมันถูกทำร้าย เนื่องจากเธอเตือนให้ผู้โดยสารต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ก่อนขึ้นมาใช้บริการ โดยเรื่องนี้ทางเดลีเมล์ รายงานเหตุความรุนแรงใน ประเทศเยอรมนี หลังจากหญิงคนหนึ่งก่อเหตุทำร้ายร่างกาย หญิงพนักงานขับรถโดยสารในเมืองดาร์มชตัท รัฐเฮสเซิน ใกล้นครแฟรงก์เฟิร์ต จนบาดเจ็บ เพราะไม่พอใจที่ถูกพนักงานเตือนให้สวม หน้ากากอนามัย ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เกิดเหตุการณ์สลดในต่างแดนอีกครั้ง เมื่อคนขับรถบัสในเยอรมันถูกทำร้าย เนื่องจากเธอเตือนให้ผู้โดยสารต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ก่อนขึ้นมาใช้บริการ โดยเรื่องนี้ทางเดลีเมล์ รายงานเหตุความรุนแรงใน ประเทศเยอรมนี หลังจากหญิงคนหนึ่งก่อเหตุทำร้ายร่างกาย หญิงพนักงานขับรถโดยสารในเมืองดาร์มชตัท รัฐเฮสเซิน ใกล้นครแฟรงก์เฟิร์ต จนบาดเจ็บ เพราะไม่พอใจที่ถูกพนักงานเตือนให้สวม หน้ากากอนามัย ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อค่ำวันอังคารที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา ภายหลังผู้โดยสารกลุ่มหนึ่ง ประกอบด้วยหญิงวัยราว 20-30 ปี กับชาย 3 คน และเด็กอีก 1 คน ขึ้นรถเมล์ที่สถานีดาร์มชตัท เซ็นทรัล โดยพนักงานขับรถบัสกล่าวเตือนกลุ่มของหญิงสาวซึ่งไม่มีใครสวมหน้ากากอนามัย ว่าจำเป็นต้องปิดจมูกและปากขณะใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ แต่คนทั้งกลุ่มกลับละเลยและเริ่มต่อว่าพนักงานขับรถ กระทั่งถึงสถานีปลายทาง หญิงคนเดิมที่มีปัญหาก็ลงมือทุบตีพนักงานขับรถซ้ำ ๆ หลายครั้งก่อนพากันหลบหนีไป
ต่อมาทางด้านนายโยเค่น พาร์ตช์ นายกเทศมนตรีเมืองดาร์มชตัท แถลงประณามพฤติกรรมป่าเถื่อนของหญิงสาว และว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นเพราะพนักงานขับรถแค่ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีความรับผิดชอบเพื่อปกป้องสังคมจากภัยคุกคามของไวรัส ขณะเดียวกันจำรวจท้องถิ่นกำลังเร่งสอบสวนและล่าตัวสาวคนร้ายมาดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกาย
ทั้งนี้ เหตุการณ์ในทำนองดังกล่าว เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลังเหตุสลดในฝรั่งเศส กรณีของนายฟิลิปป์ มงกิลโลต์ พนักงานขับรถบัสวัย 59 ปี ในเมืองบายอนน์ ซึ่งถูกแก๊งวัยรุ่นรุมทำร้ายเพราะไม่พอใจที่นายมงกิลโลต์ ร้องขอให้สวมหน้ากากอนามัยก่อนขึ้นรถ จนเป็นเหตุให้สมองตายและเสียชีวิตเมื่อต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามประเทศเยอรมันมีผู้ติดเชื้อจำนวน 209,535 ราย และเสียชีวิตแล้วจำนวน 9,144 ราย จัดอยู่อันดับที่ 19 ของโลก