- 03 ส.ค. 2563
มีรายงานว่าชาวเยอรมันจำนวนประมาณ 17,000 คน ได้ออกมาเดินขบวนในกรุงเบอร์ลินเมื่อวันเสาร์ที่ 1 ส.ค.63 ที่ผ่านมา เพื่อต่อต้านมาตรการที่รัฐบาลนำมาใช้เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 รวมถึงการสวมหน้ากากในที่สาธารณะ โดยอ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
มีรายงานว่าชาวเยอรมันจำนวนประมาณ 17,000 คน ได้ออกมาเดินขบวนในกรุงเบอร์ลินเมื่อวันเสาร์ที่ 1 ส.ค.63 ที่ผ่านมา เพื่อต่อต้านมาตรการที่รัฐบาลนำมาใช้เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 รวมถึงการสวมหน้ากากในที่สาธารณะ โดยอ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
ขณะที่ตำรวจเยอรมันระบุว่า ผู้เข้าร่วมการประท้วงมีทั้งกลุ่มแนวคิดเสรีนิยม กลุ่มสนับสนุนรัฐธรรมนูญ และกลุ่มต่อต้านการฉีดวัคซีน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มขวาจัดที่โบกธงสัญลักษณ์จักรวรรด์เยอรมนีสีขาวดำและแดง และถือป้ายต่อต้านการสวมหน้ากากด้วย
สำหรับการประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากนายไมเคิล บอลเว็ก นักธุรกิจและนักการเมืองผู้ลงแข่งชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองสตุทท์การ์ท ได้ออกมารณรงค์ต่อต้านการสวมหน้ากากในที่สาธารณะ พร้อมปลุกระดมให้ประชาชนจำนวนมากต่อต้านมาตรการดังกล่าวของรัฐบาล
ด้านนักการเมืองเยอรมนีส่วนใหญ่ต่างออกมาประณามการกระทำของนายบอลเว็กและกลุ่มผู้ประท้วงที่ออกมาชุมนุม โดยไม่สวมหน้ากากและไม่เว้นระยะห่างทางสังคม โดยระบุว่าเป็นการก่ออันตรายต่อสุขภาพประชาชนและทำลายความสำเร็จของประเทศในการควบคุมการระบาดครั้งนี้
โดยในเวลานี้เยอรมนีมีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 200,000 ราย และเสียชีวิตไม่ถึง 1,000 ราย แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มสูงขึ้นอีกครั้งหลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ อย่างไรก็ตามทางเว็บไชต์ Worldometers รายงานสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 3 สิงหาคม 2563 ช่วงเวลาประมาณ 07.40 น. ตามเวลาประเทศไทย พบมีผู้ป่วยติดเชื้อทั่วโลกรวมแล้วกว่า 18,226,591 ราย เพิ่มขึ้น 217,893 ราย เสียชีวิต 692,420 ราย เพิ่มขึ้น 4,404 ราย รักษาหาย 11,439,255 ราย
ข้อมูลวันที่ 2 สิงหาคม 2563 เวลา 15.20 น. (เวลาตามประเทศไทย)