แม่ผัวไม่ยอม แจ้งตำรวจจับลูกสะใภ้ หลังลูกชายต้องจบชีวิตลง

ไม่เคยคิดเลยจริงๆ ว่าเรื่องราวแบบนี้จะเกิดขึ้นจริงๆ เมื่อมีรายงานว่า ภรรยาถูกจับหลังสามีเสียชีวิต ซึ่งทางด้านญาติฝ่ายชายได้มั่นใจอย่างหนักแหน่นถึงสาเหตุ ที่ฝ่ายชายจบชีวิตนั้นเป็นเพราะขาดเซ็กส์ และยังมีการเปิดเผยอีกว่า ฝ่ายชายนั้นสุดเครียดเนื่องจากแต่งงานมาจะ 2 ปี แต่ภรรยาไม่ยอมให้นอนด้วย ซึ่งเธออ้างเคยสาบานจะไม่ยอมมีอะไรกับสามีตัวเอง 

โดย เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของอินเดียได้เข้าควบคุมตัวหญิงวัย 32 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในรัฐคุชราต ภายใต้ข้อหาสนับสนุนให้เกิดการฆ่าตัวตาย หลังจากที่ทางญาติสามีได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ อ้างว่าเธอหวงตัวหนักไม่ยอมหลับนอนกับสามีทั้งที่แต่งงานกันมาเกือบ 2 ปี จนเป็นเหตุให้ฝ่ายสามีจบชีวิตของตัวเอง

ทั้งนี้พบว่า นางมูลิ ปาร์มาร์ หญิงวัย 55 ปี ซึ่งเป็นแม่สามีของ นางกีตา ปาร์มาร์ ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจขอให้จับกุมลูกสะใภ้รายนี้ อ้างว่า ชีวิตสมรสที่ขาดเรื่องบนเตียง ทำให้ลูกชายของเธอเกิดความเครียดสะสม จนสุดท้ายเขาก็แบกรับไว้ไม่ไหวและตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

นอกจากนี้ นางมูลิ ยังเผยอีกว่า นางกีตาได้แต่งงานกับลูกชายของเธอตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 หลังจากที่เขาหย่าร้างกับภรรยาคนแรกเมื่อ 2 ปีก่อนหน้านั้น อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่เธอไปเยี่ยมลูกชายที่บ้านก็ได้พบว่าทั้งคู่แยกเตียงนอนกัน ซึ่งเมื่อนำเรื่องดังกล่าวไปถามลูกชาย เขาก็ยอมรับว่าตัวเองกับภรรยายังไม่เคยมีสัมพันธ์ทางกายกันเลย เพราะนางกีตาเคยสาบานไว้ว่าจะไม่ยอมมีเพศสัมพันธ์กับสามีของตัวเอง แต่ที่เลวร้ายไปยิ่งกว่านั้นก็คือ แท้จริงแล้วนางกีตาเคยผ่านการแยกทางกับผู้ชายมาถึง 2 คน แม้ไม่มีการเปิดเผยว่าเกิดจากสาเหตุใด

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้สามีของนางกีตาเครียดมาก เขารู้สึกอึดอัดกับชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลว ภรรยาไม่ยอมให้หลับนอนด้วย จนต่อมาทั้งคู่ก็เริ่มมีปากเสียงและทะเลาะกันบ่อยครั้ง กระทั่งสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อนางกีตาทิ้งสามีกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ ซึ่งแม้ว่าทางสามีของเธอจะบล็อกเบอร์โทรศัพท์ของเธอเช่นกัน แต่เขาก็ยิ่งซึมเศร้าลงเรื่อย ๆ

จนในที่สุดเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ญาติของฝ่ายชายก็พบว่าเขาได้จบชีวิตของตัวเอง ขณะอยู่ในบ้านตามลำพัง ด้วยเหตุนี้นางมูลิจึงตัดสินใจขอให้ทางตำรวจดำเนินคดีกับลูกสะใภ้ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนคดี

ขอบคุณข้อมูลจาก dailymail, timesofindia