ชายติดคุกมา 37 ปี สุดท้าย หลักฐาน DNA ใหม่เพิ่งออก ปล่อยตัวแทบไม่ทัน

ชายติดคุกมา 37 ปี สุดท้าย หลักฐาน DNA ใหม่เพิ่งออก ปล่อยตัวแทบไม่ทัน

- ย้อนกลับไปเมื่อปี 1983 ตำรวจรัฐฟลอริดา พบศพ บาร์บารา แกรมส์ (Barbara Grams) หญิงสาววัย 19 ปี ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม ระหว่างทางกลับบ้านหลังเลิกงาน ศพถูกพบบริเวณร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้กับห้างแทมปามอลล์

- สภาพศพของเหยื่อสาวถูกทุบตีทำร้ายอย่างรุนแรงโดยอาวุธที่ระบุว่าเป็นท่อนไม้ ทั้งยังพบร่องรอยว่ามีการขัดขืนจากการพยายามข่มขืนเหยื่อ

- โรเบิร์ต ดูบอยส์ (Robert DuBoise) วัย 18 ปี ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ก่อนถูกฟ้องดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรมและพยายามข่มขืน แม้ในขณะนั้น ผลการพิสูจน์ตัวอย่างเส้นผม น้ำลาย และเลือด จะยังสรุปไม่ได้ แต่อัยการโต้ว่า รอยกัดที่ร่างกายเหยื่อ ตรงกับฟันของเขา

ชายติดคุกมา 37 ปี สุดท้าย หลักฐาน DNA ใหม่เพิ่งออก ปล่อยตัวแทบไม่ทัน

 

- นอกจากนี้ อัยการในขณะนั้นยังอ้างอิงแหล่งข้อมูลในเรือนจำ ระบุว่า ดูบอยส์เคยคุยกับเขาในระหว่างที่ถูกฝากขัง กล่าวว่า มีชาย 2 คน เป็นผู้สังหารเหยื่อ ส่วนเขาเป็นคนลงมือข่มขืน

- กระทั่งในปี 1985 เมื่อสิ้นสุดการพิจารณาคดี ศาลมีความเห็นตัดสินโทษจำคุก หลังจากนั้น ดูบอยส์ถูกพาตัวไปจองจำที่ทัณฑสถานฮาร์ดี นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

- ดูบอยส์หมดอิสรภาพมาเป็นระยะเวลานานถึง 37 ปี กระทั่งเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2563 แอนดรูว์ วาร์เรน อัยการเขตฮิลส์โบโร ของรัฐฟลอริดา ได้แถลงการณ์ครั้งสำคัญ ประกาศความบริสุทธิ์ของดูบอยส์

- วาร์เรน เผยว่า หลักฐานการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอครั้งใหม่ ระบุว่า ข้อมูลที่ได้ไม่สอดคล้องกัน ชี้ชัดว่าดูบอยส์ไม่ใช่ผู้ที่กระทำความผิด และขณะนี้ได้ยื่นคำร้องเพื่อปล่อยดูบอยส์ วัย 55 ปี โดยเร็วที่สุด

- วอร์เรน กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า "นี่เป็นเรื่องที่เจ็บปวดและน่าเศร้า แต่มันคือความจริง และเมื่อคุณพูดความจริง ความยุติธรรมก็สิ้นสุดลง ความยุติธรรมสำหรับครอบครัวของเหยื่อ รวมทั้งชายที่ถูกตัดสินว่าฆ่าเธอ"

- "ความเชื่อที่ผิดพลาดทำลายรากฐานของกระบวนการยุติธรรมของเรา เป็นเวลา 37 ปีแล้วที่เราขังชายบริสุทธิ์คนหนึ่งไว้ในคุก ในขณะที่ผู้กระทำความผิดตัวจริงไม่เคยต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมที่เลวร้ายนี้" 

ชายติดคุกมา 37 ปี สุดท้าย หลักฐาน DNA ใหม่เพิ่งออก ปล่อยตัวแทบไม่ทัน

- วอร์เรน ระบุว่า หลักฐานทางพันธุกรรมของผู้ก่อเหตุ ถูกทำลายหายไปตั้งเมื่อปี 1990 กระทั่งมีโปรเจกต์ Innocence Project รื้อคดีของดูบอยส์มาทบทวนใหม่ เป็นเวลา 11 เดือน และพบหลักฐานชิ้นสำคัญ

- ผลการวิเคราะห์ยืนยันว่า ดีเอ็นเอของดูบอยส์ไม่ตรงกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่รวบรวมจากการสืบสวนคดีฆาตกรรม แต่พบว่าตรงกับผู้ชาย 2 คน ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดได้ในขณะนี้