- 06 ก.ย. 2563
ลุงชรา สู้โควิด-19 จนหาย แต่กลับต้องมาช็อกเกือบหัวใจวาย เจอบิลค่ารักษา 34.5 ล้าน
เรียกว่าเป็นเรื่องราวของคุณลุงรายหนึ่งนั้น ที่สู้จนชนะเชื้อไว้รัสโควิด-19 แต่กับต้องมาช็อก หลังจากที่บิลค่ารักษาออกมา โดย ไมเคิล ฟลอร์ วัย 70 ปี เป็นหนึ่งในผู้ป่วยโรคโควิด 19 ชุดแรก ๆ ของสหรัฐอเมริกา เขาเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในรัฐวอชิงตัน โดยแม้ว่าไมเคิลจะอายุมากแล้ว เป็นผู้ป่วยวัยชราที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่เขาต่อสู้กับโรคอย่างเข้มแข็งมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 2 เดือน จนกระทั่งหายดี สามารถกลับบ้านได้ ซึ่งในวันที่ออกจากโรงพยาบาล ครอบครัวก็มาต้อนรับอย่างอบอุ่นชื่นมื่น และทุกคนต่างมีความสุข
หลังจากเวลาผ่านไปไม่นาน บิลเรียกเก็บเงินก็มาส่งถึงบ้าน และเมื่อไมเคิลเปิดดู เขาก็ช็อกหนักมากจนแทบจะหัวใจวายตาย เพราะค่ารักษาพยาบาลแพงสูงลิบลิ่ว แพงกว่ารถ แพงกว่าบ้าน ราคามหาศาล แบบกะเอาล้มละลายกันเลยทีเดียว.....
จากการรายงานของเว็บไซต์แลดไบเบิล เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2563 ระบุว่า ไมเคิลต้องรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU ถึง 42 วัน และนอนนิ่ง แทบไม่รู้เนื้อรู้ตัว น้ำหนักตัวลดลงไป 18 กิโลกรัม ซึ่งในระหว่างนั้น แพทย์ได้แจ้งให้ครอบครัวทำใจแล้วว่าไมเคิลจะไม่รอดแน่นอน และได้ให้ทางบ้านโทรศัพท์ร่ำลากับเขาเป็นครั้งสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม ไมเคิลอาการดีขึ้นจนสามารถออกจากห้องไอซียูได้ในที่สุด แต่ก็ยังคงต้องรักษาตัวต่อในโรงพยาบาล และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เขาฮึดสู้ ใจสู้และมีจิตใจที่เข้มแข็งมาก ร่างกายตอบสนองต่อการรักษาได้ดี อาการดีขึ้นตามลำดับ จนไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และในที่สุด เขาก็หายสนิท สามารถออกจากโรงพยาบาล หลังจากรักษาอยู่ 62 วัน
พอกลับมาอยู่บ้าน ไมเคิลคิดไตร่ตรองและทำใจไว้ล่วงหน้าแล้วว่าค่ารักษาน่าจะแพงไม่น้อย แค่เขาคาดคิดไม่ถึงเลยว่ามันจะแพงมากมากมาก โดยใบแจ้งหนี้ค่ารักษาพยาบาลส่งมาที่บ้านทางไปรษณีย์ มันเป็นเอกสาร 181 หน้า หนาเท่าเขียงสับหมู
บิลดังกล่าวระบุรายละเอียดการรักษาและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ หลายพันรายการ เมื่อไมเคิลเห็นตัวเลขก็ช็อกหนักแทบจะหัวใจวายตาย เพราะค่ารักษาทั้งหมด รวมแล้วคือ 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 34.5 ล้านบาท (อ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน)
แต่โชคดีสำหรับไมเคิลและครอบครัว เพราะเขาทำประกันสุขภาพไว้หลายรายการ รวมทั้งอยู่ในโครงการ Medicare ซึ่งเป็นหลักประกันสุขภาพของรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ทำให้ไมเคิลไม่ต้องขายบ้านขายที่ดินจนหมดเนื้อหมดตัว และควักเงินจ่ายเองเพียง 3,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 94,170 เท่านั้น
เคสของ ไมเคิล ได้กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศ และสะท้อนให้เห็นถึงความจริงอันน่าเศร้าของระบบสาธารณสุขอเมริกัน ที่ไม่เอื้อประโยชน์ต่อประชาชนธรรมดาทั่วไป และยากแก่การเข้าถึง โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ด้วยค่ารักษาพยาบาลที่แพงมหาศาล ต้องมีการซื้อประกันเท่านั้นถึงจะพอไหวในการเจ็บป่วยแต่ละครั้ง และไม่ใช่ว่าทุกคนจะโชคดีเหมือนกับไมเคิล
ข้อมูลจาก Fairhealth องค์กรสำรวจวิจัยด้านสาธารณสุขของสหรัฐฯ ระบุว่า ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ไม่มีประกัน ราคาเฉลี่ยในเบื้องต้นอยู่ที่ 73,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2.29 ล้านบาท ส่วนผู้ป่วยที่มีประกัน ราคาก็จะลดลงไปเกือบครึ่ง เหลืออยู่ที่ 38,000 บาท หรือประมาณ 1.19 ล้านบาท
ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ยิ่งเคสผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสเพิ่มมากขึ้น ค่ารักษาพยาบาลก็เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย จนเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งก็มีการวิเคราะห์ว่ารัฐบาลจะต้องหาทางรับมือกับเรื่องนี้ในทางใดทางหนึ่ง อาจจะเก็บภาษีเพิ่ม หรือออกระบบประกันสุขภาพที่ครอบคลุมมากกว่านี้