- 19 ม.ค. 2564
จากที่โรคโควิดได้เริ่มระบาดไปทั่วโลกและคร่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนว่าแม้แต่จะรักษาหายแล้วแต่ปอดของคนที่ป่วยโควิดนั้นมีแนวโน้มสูงว่าจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.บริททานี แบงค์เฮด - เคนดัล ศัลยแพทย์หญิงชาวอเมริกัน ได้เผยแพร่ภาพเปรียบเทียบระหว่าง ปอดของคนปกติกับผู้สูบบุหรี่เป็นประจำ และผู้ป่วยโควิด 19 ซึ่งเผยให้เห็นผลลัพธ์ที่น่าตกใจ และเป็นการแสดงให้เห็นว่าเชื้อโคโรนาไวรัสนั้นน่ากลัวกว่าที่คิด
จากที่โรคโควิด 19 ได้เริ่มระบาดไปทั่วโลกและคร่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนว่าแม้แต่จะรักษาหายแล้วแต่ปอดของคนที่ป่วยโควิดนั้นมีแนวโน้มสูงว่าจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.บริททานี แบงค์เฮด - เคนดัล ศัลยแพทย์หญิงชาวอเมริกัน ได้เผยแพร่ภาพเปรียบเทียบระหว่าง ปอดของคนปกติกับผู้สูบบุหรี่เป็นประจำ และผู้ป่วยโควิด 19 ซึ่งเผยให้เห็นผลลัพธ์ที่น่าตกใจ และเป็นการแสดงให้เห็นว่าเชื้อโคโรนาไวรัสนั้นน่ากลัวกว่าที่คิด
โดยคุณหมอบริททานี เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ ที่ศูนย์การแพทย์และวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเทกซัสเทคโนโลยี รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา เธอได้โพสต์ทวิตเตอร์เล่าว่า ผู้ป่วยที่หายจากโรคโควิด 19 มีปอดที่อยู่ในสภาพย่ำแย่มาก เลวร้ายยิ่งกว่าเคสผู้ป่วยสูบบุหรี่จัดที่หนักที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมา
นอกจากนี้ คุณหมอหญิงยังได้โพสต์ภาพเอกซเรย์ 3 ภาพ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ซึ่งภาพแรกเป็นภาพเอกซเรย์ปอดคนปกติ ซึ่งมีพื้นที่สีดำจำนวนมาก แสดงให้เห็นปอดอยู่ในสภาพดี มีพื้นที่อากาศมาก ต่อมาภาพที่สอง เป็นภาพปอดของผู้สูบบุหรี่ ซึ่งทึบแสง บ่งชี้ว่าอยู่ในสภาวะเสี่ยงอันตราย เนื่องจากมีรอยแผลหลายจุดและมีอาการสูญเสียเนื้อปอด
และภาพสุดท้าย เป็นภาพปอดของผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่หายแล้ว แต่ปอดไม่ได้หายเป็นปกติตามไปด้วย โดยภาพเผยให้เห็นว่าปอดทั้งสองข้างเป็นสีขาวเกือบทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าปอดได้รับความเสียหายรุนแรงมาก
ทั้งนี้คุณหมอบริททานี "ผู้ที่ผลตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นบวกกับผู้ป่วยที่หายแล้ว จะต้องพบเจอกับปัญหาที่ตามมา แม้ว่าตอนนี้จะไม่แสดงอาการใด ๆ พวกเขาอาจพูดได้ว่า สบายดี ไม่เห็นเป็นอะไรเลย แต่พอเอกซเรย์ปอดปุ๊บ เห็นความจริงเลยว่าปอดพังไม่เหลือแล้วค่ะ พวกเขาอาจจะยังรู้สึกสบายดีในตอนนี้ แต่จะไม่รู้สึกสบายดีในตอนหลังแน่นอน"
แพทย์หญิง กล่าวอีกว่า แม้แต่ผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการป่วยใด ๆ ก็สามารถประสบภาวะปอดเสียหายรุนแรงได้เช่นกัน โดยจากสถิติพบว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ป่วย Covid-19 ที่ไม่แสดงอาการใด ๆ ต่างมีผลเอกซเรย์ที่เผยให้เห็นว่าปอดอยู่ในสภาพเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่หายแล้ว ส่วนใหญ่มักจะมีอาการหายใจลำบาก ดังนั้น จึงควรพบแพทย์เพื่อติดตามอาการเป็นระยะ และการฉีดวัคซีนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งคุณหมอบริททานียังได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ว่า "มันไม่มีวัคซีนใดๆ ที่มีผลกระทบระยะยาว ที่เลวร้ายเท่ากับผลกระทบระยะยาวของโรคโควิด 19 แล้วค่ะ"
