ลอสแอนเจลิส ในสหรัฐฯ พบผู้ป่วยโควิด-19 รายเดือนเพิ่มทะลุ 500%

สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า คณะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในลอสแอนเจลิส เทศมณฑลที่มีประชากรมากที่สุดของสหรัฐฯ รายงานการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด-19 มากกว่าร้อยละ 500 เมื่อเทียบรายเดือน

โดยทางสำนักสาธารณสุขเทศมณฑลลอสแอนเจลิสระบุว่าจำนวนผู้ป่วยเฉลี่ย 5 วัน เมื่อวันที่ 13มิถุนายน ที่ผ่านมา อยู่ที่ 201 ราย โดยจำนวนดังกล่าวเมื่อวันอังคาร 13 กรกฎาคม อยู่ที่ 1,095 ราย เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 544.8 ส่วนอัตราผลตรวจโรคเป็นบวกเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.5 ในเดือนก่อนเป็นร้อยละ 3.4 ซึ่งคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 700

 

 

ยืนยันการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 1,103 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 12 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง ซึ่งนับติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ที่ลอสแอนเจลิสตรวจพบผู้ป่วยใหม่รายวันเกิน 1,000 ราย ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา (Delta) ในภูมิภาค โดยที่ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน คณะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขชี้ว่าโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา กลายเป็นสายพันธุ์ที่ตรวจพบบ่อยที่สุดในลอสแอนเจลิส นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายน

 

บาร์บารา เฟอร์เรอร์ ผู้อำนวยการสำนักฯ ได้แถลงข่าวว่าประชาชนในลอสแอนเจลิส ให้ควรรีบเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งถือเป็นเครื่องมือทรงพลังที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงป่วยหนักหากติดเชื้อโควิด-19 หลังจากเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา แพร่ระบาดในอัตราสูงกว่าเพราะมีคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนอยู่ในที่ร่มจำนวนมาก ทั้งนี้ข้อมูลทางการระบุว่าปัจจุบันร้อยละ 69 ของประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปในลอสแอนเจลิสได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งโดส และร้อยละ 61 ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ขณะมีผู้ป่วยสะสมในพื้นที่ 1,259,772 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิตรวม 24,554 ราย

ที่มา China Xinhua News