- 27 ก.ค. 2564
แฟนขนไก่สวดยับ รัฐบาลไต้หวันให้นักแบดมือหนึ่งนั่งชั้นประหยัดไปแข่งโอลิมปิก แต่จนท. รัฐนั่งชั้นธุรกิจ ล่าสุดอธิบดีฯการกีฬาไต้หวันประกาศลาออกเซ่นปมเดือด
ทำเอาแฟนๆ ลูกขนไก่ของไต้หวันไม่พอใจอย่างมาก เมื่อเห็นภาพนักแบดมินตันมือหนึ่งของโลกผู้ที่คอยสร้างชื่อเสียงให้กับไต้หวันอย่าง ไต้จื่ออิง หรือ ไท่ซื่อญิง (Tai Tzu-Ying) หรืออีกชื่อที่คนไทยรู้จักกันดีคือ ต่าย นักตบลูกขนไก่ขวัญใจแฟนกีฬาหทั่วโลกต้องนั่งเครื่องบินชั้นประหยัดไปแข่งโอลิมปิก ขณะที่รัฐบาลนั่งชั้นธุรกิจ
โดยประชาชนชาวไต้หวันต่างรุมจวกรัฐบาลไต้หวัน คณะกรรมการด้านกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างหนัก เนื่องจากพวกเขาส่งนักกีฬาทีมชาติดีกรีระดับโลก นั่งเครื่องบินชั้นประหยัด เดินทางไปแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก ในขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง นั่งชั้นธุรกิจหรือบิสซิเนสคลาส
เรื่องราวโป๊ะแตกนี้เกิดขึ้นเมื่อ ในวันที่ 19 กรกฎาคม เนื่องจาก ต่าย หรือ ไต้จื่ออิง นักแบดมินตันชาวไต้หวันวัย 26 ปี มือวางอันดับหนึ่งของโลก ตัวแทน ไชนิส ไทเป (Chinese Taipei) ได้ออกเดินทางจากไต้หวันไปยังโตเกียว ซึ่งเธอก็ได้โพสต์ภาพขณะอยู่บนเครื่องบินลงบนโซเชียลมีเดียส่วนตัว
หลังจากที่ชาวเน็ตได้เห็นภาพที่นักกีฬาต่างได้นั่งที่นั่งชั้นประหยัด ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงและคณะกรรมการโอลิมปิกของไต้หวัน จะได้นั่งชั้นธุรกิจบนเครื่องบินเช่าเหมาลำ แยกออกไปคนละลำ ซึ่งรัฐบาลไต้หวันชี้แจงว่า จุดประสงค์คือเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
แต่นั่นก็สร้างความไม่พอใจอย่างมากจากประชาชนอย่างมาก พร้อมกันนี้ยังมีพรรคฝ่ายค้านเรียกร้องให้มีคนออกมาแสดงความรับผิดชอบกับความไม่เหมาะสมนี้
ด้านพรรคพลังใหม่ หรือ NPP เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายวิกเตอร์ ชาง ผู้ประสานงานโอลิมปิกของไต้หวัน กล่าวแนะนำให้แยกนักกีฬาทีมชาติไปนั่งชั้นประหยัด เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ social distancing ซึ่งคำสั่งนี้มาจากคณะกรรมการบริหารการกีฬา
ล่าสุด นางไช่อิงเหวิน ผู้นำไต้หวัน ได้ออกมากล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ระบุว่าตนเองเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ล้มเหลวและผิดสัญญาเรื่องการบริหารจัดการที่นั่งที่กว้างขวางและเหมาะสมสำหรับนักกีฬาโอลิมปิกของชาติ
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ นายชางจ้าวชี อธิบดีสำนักบริหารการกีฬาไต้หวัน เองก็ได้ออกมาชี้แจงขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเช่นกัน และได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว เซ่นปมเรื่องอื้อฉาวดังกล่าว