เด็กสหรัฐฯ วัย 7 ขวบ ติดเชื้ออะมีบากินสมองเสียชีวิต หลังลงเล่นน้ำในทะเลสาบ

สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า สื่อท้องถิ่นสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 กรณีเด็กชาย วัย 7 ขวบ เสียชีวิตหลังติดเชื้อ "อะมีบากินสมอง" (brain-eating amoeba) โดยเป็นไปได้ว่าอาจติดเชื้อขณะว่ายน้ำในทะเลสาบทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย

หนังสือพิมพ์ลอสแอนเจลิส ไทมส์ รายงานว่า เดวิด พรูอิทท์ จากเทศมณฑลเทฮามา เสียชีวิตด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอะมีบา (PAM) ซึ่งเป็นการติดเชื้อรุนแรงในสมองที่พบได้ยาก โดยเด็กชายคนดังกล่าวติดเชื้อหลังเล่นน้ำในทะเลสาบน้ำจืดเมื่อเดือนก่อน และถูกส่งตัวเข้าศูนย์การแพทย์ยูซี เดวิส เมื่อวันที่ 30 ก.ค. และเสียชีวิตในวันที่ 7 ส.ค.

 

 

โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอะมีบาเกิดจากเชื้ออะมีบา ชนิดเนเกลอเรีย (Naegleria fowleri) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "อะมีบากินสมอง" พบได้ในน้ำจืดและดินที่มีอุณหภูมิอุ่น โดยสำนักบริการสุขภาพเทศมณฑลเทฮามา ระบุว่า ผู้คนจะติดเชื้ออะมีบาได้ เมื่อน้ำที่มีเชื้อไหลเข้าทางโพรงจมูกอย่างรุนแรง โดยเชื้ออะมีบาสามารถเคลื่อนตัวเข้าสู่สมองและทำลายเนื้อเยื่อสมอง

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) กล่าวว่า การติดเชื้อในระยะแรกอาจมีอาการต่าง ๆ อาทิ ปวดศีรษะรุนแรง มีไข้ คลื่นไส้ และ อาเจียน โดยเมื่อการติดเชื้อรุนแรงขึ้น อาการต่าง ๆ จะทรุดลงภายใน 1 - 9 วัน หลังสัมผัสเชื้อ และสามารถรุนแรงยิ่งขึ้นจนคอแข็ง ชัก หรือ ประสาทหลอน

เว็บไซต์ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ ระบุว่า เนื่องจากการเกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอะมีบาพบได้น้อยมาก และการพัฒนาของเชื้อดำเนินไปอย่างรวดเร็ว จึงตรวจจับเชื้อได้ยาก โดยยังไม่มีวิธีการใดที่สามารถวัดปริมาณอะมีบาในน้ำได้อย่างแม่นยำ

ทั้งนี้ สำนักบริการสุขภาพเทศมณฑลเทฮามา ระบุว่า มีผู้ป่วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอะมีบาในแคลิฟอร์เนียเพียง 10 ราย นับตั้งแต่ปี 1971 รวมถึงแนะนำว่า ผู้ใดที่ได้สัมผัสน้ำจืดอุณหภูมิอุ่นเข้าทางจมูกในช่วง 10 วันที่ผ่านมา และมีอาการต่าง ๆ ที่รุนแรงขึ้นควรปรึกษาแพทย์ทันที

ที่มา China Xinhua News