ศรีลังกาตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 เกือบ 6 หมื่นราย หวั่นผลพวงจากสายพันธุ์ซูเปอร์เดลตา

สำนักข่าวซินหัวของประเทศจีนรายงานว่าเมื่อวันจันทร์ (30 ส.ค.)ที่ผ่านมา สื่อท้องถิ่นศรีลังการายงานว่าช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ศรีลังกาตรวจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด-19 เกือบ 60,000 ราย ซึ่งทางการเชื่อว่าอาจมีสาเหตุมาจากการระบาดอย่างรวดเร็วของโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์ “ซูเปอร์เดลตา” (Super Delta)

คณะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่าปัจจุบันศรีลังกามีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่กำลังรักษาตัว 59,796 ราย และมีผู้ป่วยเพิ่มเฉลี่ย 4,000 รายต่อวัน ขณะที่ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตรวมอยู่ที่ 8,775 ราย ศาสตราจารย์นีลิกา มาลาวิก หัวหน้าแผนกภูมิคุ้มกันวิทยาและเวชศาสตร์โมเลกุลของมหาวิทยาลัยศรีชยวรรธนปุระ กล่าวว่าโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา กำลังแพร่ระบาดเหมือนไฟป่าในกรุงโคลัมโบ เมืองหลวงของประเทศ และมีความเสี่ยงสูงที่สายพันธุ์ดังกล่าวจะแพร่ไปยังส่วนอื่นๆ ของประเทศ

โดยนอกจากนี้มาลาวิก และจันทิมา จีวรรณดารา จากแผนกโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันวิทยาของมหาวิทยาลัยฯ กล่าวว่าโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ได้พัฒนาจนรุนแรงยิ่งกว่าสายพันธุ์อัลฟาและกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยสายพันธุ์ที่กำลังระบาดล่าสุดในศรีลังกาอาจเป็นสายพันธุ์ “ซูเปอร์เดลตา”

 

จีวรรณดาราเสริมว่าอาจมีความหวังในการควบคุมโรคระบาด หากบรรลุเป้าหมายร้อยละ 80 ของประชากรที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์เข้ารับวัคซีนภายในสิ้นเดือนกันยายน

ทั้งนี้ ศรีลังกากำลังดำเนินโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขนานใหญ่ โดยโกตาบายา ราชปักษา ประธานาธิบดีศรีลังกา สั่งทางการฉีดวัคซีนโดสแรกให้พลเมืองอายุ 30 ปีขึ้นไปทั้งหมดภายในเดือนกันยายน  

ที่มา China Xinhua News