ประธานาธิบดีบราซิล เตรียมตัวโดน วุฒิสภาเล็งดำเนินคดีหลายข้อหา

โควิดวันนี้จากทั่วโลกดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตามข้อมูลจากเว็บไซต์ worldometers พบว่า ยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสมรณะพุ่งสูงแล้วถึง 244,458,031 ราย ยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกอยู่ที่ 4,964,302 รายและหายป่วยแล้วกว่า 221,483,169 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2564 เวลา 14.47 น. ตามเวลาประเทศไทย) ทั้งนี้หลายๆ ประเทศเริ่มได้วัคซีนบูสเตอร์กันแล้ว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ดูเหมือนว่าที่ประเทศบราซิลเองก็เป็นอีก 1 ประเทศที่รัฐบาลค่อนข้างล้มเหลวในการบริหารจัดการการแพร่ระบาดของโรคโควิด จึงทำให้ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะพุ่งไปที่ 605,682 ราย ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 21,729,763 ราย ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่นั้น ค่อยๆ ลดลงมาจากหลักหมื่นจนล่าสุด ป่วยเพิ่มไม่ถึงหมื่นแล้ว

ทว่าด้วยตัวเลขผู้เสียชีวิตที่มากมายนั้นทำให้ คณะทำงานของวุฒิสภาบราซิล ที่รับผิดชอบการไต่สวนเรื่องความบกพร่องในการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ของรัฐบาลบราซิล ถึงกับต้องเผยแพร่รายงานความยาว 1,200 หน้า ซึ่งแนะนำให้มีการดำเนินคดีอาญากับประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ของบราซิลใน 9 ข้อหา

โดยข้อหาที่จะเอาผิด ประธานาธิบดีบราซิลนั้น ยังรวมไปถึงฆาตกรรม ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนพื้นเมือง และก่ออาชญากรรมร้ายแรงต่อมนุษยชาติ ซึ่งเป็นข้อหาหนักที่สุด เนื่องจาก รัฐบาลของ ประธานาธิบดีบราซิลคนนี้ ล้มเหลวในการบริหารจัดการการแพร่ระบาดของโรคโควิด  เป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิตมากกว่า 600,000 ราย

ตามรายงานซึ่งใช้เวลาศึกษา 6 เดือน ยังแฉเรื่องอื้อฉาวและการทุจริตในภาครัฐด้วย แต่คณะทำงานของวุฒิสภายังต้องเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการของวุฒิสภารับรอง ก่อนเสนอเรื่องให้ที่ประชุมร่วมของสภาคองเกรสของบราซิลลงมติ ซึ่งเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีโบลโซนารูจะใช้สิทธิยับยั้ง (veto) ซึ่งจะมีผลให้การไต่สวนเรื่องนี้เป็นอันสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ หรืออาจจะมีการแก้ไขบางข้อความในรายงาน

นอกจากนี้ที่ผ่านมา คะแนนนิยมของนายโบลโซนารูร่วงลงอย่างต่อเนื่อง และการเผยแพร่รายงานฉบับนี้ต่อสาธารณชนยิ่งทำให้โอกาสที่เขาจะชนะการเลือกตั้งในปีหน้า เพื่อกลับมาบริหารประเทศสมัยที่ 2 เป็นไปได้ยากขึ้น ตามข้อมูลระบุว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตของบราซิลมากเป็นอันดับที่สองของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา