จีน สั่งล็อคดาวน์เข้ม หลังเจอคลัสเตอร์แห่งใหม่ ประชากร 4 ล้านคนห้ามออกจากบ้าน

ก่อนหน้านี้ประเทศจีนเคยประกาศเป็นอีกหนึ่งประเทศที่สามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติได้แล้ว หลังจากเป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 หรือ โควิด 19 ทว่ากลับมีข่าวลือว่า จีนจะกลับมาระบาดหนักอีกครั้ง ซึ่งล่าสุดสื่อต่างประเทศได้รายงานว่า จีนสั่งล็อกดาวน์เมืองหลานโจว ห้ามประชากรในเมืองออกจากบ้าน เว้นมีเหตุฉุกเฉิน หลังจากพบคลัสเตอร์แห่งใหม่ และมีผู้ติดเชื้อหลักสิบคน

ตามข้อมูลระบุว่า เมื่อวันอังคารที่ 26 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา หน่วยงานสาธารณสุขของจีนรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มอีก 29 ราย ในข้อมูลของผุ้ติดเชื้อ 6 รายในจำนวนนี้อยู่ที่เมืองหลานโจว เมืองเอกของมณฑลกานซู่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งต้องบอกว่า จีนกำลังเผชิญการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา 

หากนับตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. 2564 พวกเขาพบผู้ติดเชื้อแล้ว 198 ราย ใน 11 มณฑล แต่ 39 รายในจำนวนนี้อยู่ที่เมืองหลานโจว เป็นเหตุให้ทางการตัดสินใจสั่งล็อกดาวน์เมืองเอกแห่งนี้ เพื่อควบคุมการระบาดแบบเป็นกลุ่มก้อน หรือคลัสเตอร์ ภายในเมือง ซึ่งผลจากมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ประชากรของเมืองหลานโจวราว 4 ล้านคนต้องอยู่แต่ในบ้าน การเข้า - ออกเมืองจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวด และสามารถเดินทางได้เพื่อซื้อเสบียงอาหารและรับการรักษาพยาบาลเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ด้านการขนส่ง บริการรถประจำทางและแท็กซี่ ถูกระงับไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนบริการรถไฟถูกยกเลิกกว่า 70 เที่ยวในวันอังคาร ขณะที่เที่ยวบินจากสนามบินต้าซิง ในกรุงปักกิ่งมายังเมืองหลานโจวก็ถูกยกเลิกทั้งหมด โดยไม่มีกำหนดว่าจะกลับมาให้บริการเมื่อใด อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ worldometers ระบุว่า จากการระบาดระลอกใหม่ของประเทศส่งผลทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มล่าสุดอีก 59 ราย ติดเชื้อสะสมแล้วกว่า 96,899 ราย เสียชีวิต 4,636 รายและรักษาหายแล้ว 91,620 ราย