อดัม เลอวีน เจอถล่ม หลังพ่นคำหยาบ ทำท่ารังเกียจใส่แฟนคลับที่วิ่งขึ้นไปกอดบนเวที

กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์เลยทีเดียว เมื่อผู้ใช้แแอพลิเคชั่น TikTok รายหนึ่งได้โพสต์ภาพการชมคอนเสิร์ต Maroon 5 ซึ่งช่วงขณะที่ อดัม เลอวีน (Adam Levine) นักร้องนำ Maroon 5 กำลังร้องเพลง Sunday Morning อยู่บนเวทีนั้น จู่ๆ ก็มีแฟนคลับสาวรายหนึ่งกระโดดขึ้นบนเวทีแล้วเข้าไปกอดแขนของเขา ซึ่งเพียงเสี้ยวนาที การ์ดก็มาพาตัวเธอออกไปทันที

 

ทว่าภายหลังจากที่แฟนคลับสาวคนดังกล่าวได้พาตัวออกไปแล้ว สีหน้า อดัม เลอวีน กลับไม่แฮปปี้อย่างเห็นได้ ชัด เขาได้สบถคำหยาบออกมา 1 ครั้งก่อนจะแสดงสีหน้าถึงความไม่พอใจดังกล่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งชาวเน็ตหลายคนมองว่า เขากำลังทำท่าแสดงความรังเกียจถึงช่วงนาทีที่เขาถูกแฟนคลับสาวคนนั้นวิ่งเข้ามากอด

โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกนำมาโพสต์เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยผู้ใช้ TIKTOK ชื่อ luispenaloza9525 ซึ่งเพียงไม่กี่วันก็ถูกแชร์ต่อกันอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งมีผู้เข้าไปดูคลิปกว่า 9.9 ล้านวิว และตามมาด้วยคอมเม้นต์แสดงความคิดเห็นมากมาย ฝ่ายหนึ่งมองว่าท่าทีที่แสดงออกของอดัมนั้นไม่สุภาพมาก ในขณะที่อีกส่วนมองว่า พฤติกรรมของแฟนคลับ เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของนักร้องหนุ่ม โดยที่เขาไม่ได้รับความยินยอม
 

 

หลายๆ คนเม้นต์ที่แสดงไปในทิศทางเดียวกันระบุว่า เข้าใจว่า เขาตกใจ แต่ไม่เห็นจำเป็นต้องแสดงท่าทางว่ารังเกียจขนาดนั้น บ้างก็คอมเม้นต์ว่า การให้เกียรติกันควรหมายถึงทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเราไม่ควรแตะต้องตัวใครหากไม่ได้รับความยินยอม ไม่ว่าใครก็ตาม เพราะแม้เขาจะเป็นคนดัง แต่ก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกัน

 
จากนั้นไม่นาน อดัม เลอวีน ก็ได้โพสต์ ไอจีสตอรี่ เปิดใจพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเขาระบุว่า "ผมเป็นคนที่รัก เคารพ และให้เกียรติแฟนๆ เสมอ ถ้าไม่มีแฟนคลับ เราก็ไม่มีงานทำ ผมพูดแบบนั้นกับพวกเขาตลอดเวลา การที่คนพูดกันว่า ผมคิดว่าแฟนๆ อยู่ต่ำกว่าเรา ทำให้ฉันรู้สึกไม่ดี และนั่นไม่ใช่ตัวตนของฉัน"

นอกจากนี้ นักร้องนำ Maroon 5 ยังได้ออกมาอธิบายอีกครั้งหนึ่งว่า ท่าทางที่ดูหงุดหงิดของเขามาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเขาแค่อยากให้แฟนคลับรู้ว่า เขาตกใจมาก และบางครั้งเมื่อคุณตกใจ คุณก็อาจจะเผลอทำอะไรออกไปไม่รู้ตัว คุณก็ต้องปล่อยมันไปและมูฟออนต่อ เพราะตนทำงานของตนอยู่บนนั้น อีกทั้งยังย้ำอีกครั้งว่า แฟนคลับคือหัวใจสำคัญของเขาและวงดนตรี หวังว่าทุกคนจะเข้าใจเรื่องนี้จริงๆ

ข้อมูลจาก usatoday.com