- 07 ธ.ค. 2564
แขกสะตั้นหลายวิ ไปงานแต่งงาน แต่กลับเจอช็อตเด็ด เห็นเจ้าบ่าวจับมือหญิงอื่นลับหลังเจ้าสาว ชั่ใจหลายวัน เจอแบบนี้ทำยังไงดี?
งานแต่งงานเป็นงานที่ผู้หญิงทุกคนต่างฝันถึงและคิดเอาไว้ว่า นั่นจะเป็นวันที่มีคนมาร่วมแสดงความยินดีและเป็นสักขีพยานในความรักของเธอและว่าที่สามีอย่างแน่นอน แต่บางครั้ง งานแต่งงานก็อาจจะเป็นฝันร้ายของเจ้าสาวป้ายแดงก็เป็นได้ เมื่อสิ่งที่เจ็บปวดใจได้ก่อตัวขึ้น ในช่วงที่บ่าวสาวยืนถ่ายรูปกับแขกที่มาร่วมงาน อย่างเช่นเจ้าสาวรายนี้
ในโลกออนไลน์ถือว่ามีภาพถ่ายจากงานแต่งงานหนึ่งที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก เมื่อคู่บ่าวสาวกับแขกผู้หญิงรายหนึ่งกลับกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันบนโลกออนไลน์ หลังชาวเน็ตตาไวสังเกตเห็นอะไรที่ไม่ชอบมาพากลในภาพ ทำให้ภาพดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างล้นหลามในช่วงเวลาสั้นๆ กระทั่งโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์
ตามรายงานจากสื่อต่างประเทศระบุว่า ภาพดังกล่าวถูกนำมาโพสต์ลงกลุ่มเฟซบุ๊ก โดยหนุ่มรายหนึ่งที่บอกว่าตนเองบังเอิญเห็นภาพนี้เข้าระหว่างกำลังเดินไปห้องน้ำ มันทำให้เขารู้สึกเหมือนได้เห็นภาพที่ไม่ควรเห็น และเขาควรเข้าไปรับตัวเจ้าสาวออกมาดีหรือไม่ ซึ่งในภาพปรากฏให้เห็นคู่บ่าวสาวที่ยืนอยู่คู่กับผู้หญิงผมยาว ในชุดสีดำ
โดยฝ่ายเจ้าสาวโอบเอวของแขกรายนี้อย่างสนิทสนม ซึ่งมันก็คงจะไม่มีอะไรหากว่ามือของเจ้าบ่าวไม่ได้กำลังเกาะกุมมือของแขกรายนี้ ซ่อนความใกล้ชิดนี้ไว้ด้านหลังเจ้าสาว ทำให้ภาพเจ้าบ่าวที่เอาจับมือกับแขกผู้หญิงลับหลังภรรยาของตัวเอง เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์สนั่น จนมีคนเข้ามาคอมเม้นต์กันมากกว่า 6,000 ความคิดเห็นภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงนับจากลงภาพไป
ในคอมเม้นต์เหล่านั้น ต่างแนะนำให้หนุ่มรายนี้นำภาพไปโชว์ให้เจ้าสาวดูตรงๆ เลย รวมถึงคนที่บอกว่าหากตนเองเจอเรื่องแบบนี้เข้า "ฉันจะแอบบอกเจ้าสาว" ขณะเดียวกัน ในหลายๆ คอมเม้นต์ยังชี้ว่าแขกรายนี้แต่งตัวเหมือนกับแม่สามี แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางคนที่แอบสงสัยว่าเจ้าสาวจะไม่รู้ตัวจริงๆ หรอ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ภาพเป็นไวรัล หนุ่มคนที่โพสต์ภาพก็เข้ามาอัพเดตชี้ว่าจริงๆ แล้วสิ่งที่ได้เห็นกันนั้นกลับไม่ใช่เรื่องชวนดราม่าอย่างที่คิด กลายเป็นว่าทั้ง 3 คนจงใจถ่ายภาพแบบนี้ขำๆ แน่นอนว่าทางเจ้าสาวก็ทราบดีก่อนที่จะโพสต์ท่าเช่นนี้ แต่คนที่ช้ำใจที่สุดเห็นจะเป็นแขกในภาพ เพราะผู้คนมากมายต่างบอกว่าเธอเป็นแม่ยาย เป็นคนสูงวัย ทั้งที่เธอเป็นสาวรุ่นพี่เท่านั้น
ข้อมูลจาก ETtoday