นักวิจัยญี่ปุ่นตีแผ่โอมิครอน อาจเป็นภัยเสี่ยงสูง แม้ฉีดวัคซีนกันเยอะแล้ว

นักวิจัยญี่ปุ่นตีแผ่โอมิครอน อาจเป็นภัยเสี่ยงสูง แม้ในประเทศที่มีประชาชนฉีดวัคซีนกันเยอะแล้ว ต้องรอดูความรุนแรงของเชื้อไวรัสฯ และประสิทธิภาพของวัคซีน

สื่อต่างประเทศรายงาน เมื่อวันพุธ ที่ 8 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา ว่าที่ประเทศญี่ปุ่น คณะนักวิจัยญี่ปุ่นที่นำโดยศาสตราจารย์ฮิโรชิ นิชิอุระ จากมหาวิทยาลัยเกียวโต รายงานผลวิเคราะห์การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน "โอมิครอน" ในแอฟริกาใต้ ระหว่างการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาของกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น

ภาพจาก ซินหัว

โดยคณะนักวิจัยได้ตรวจสอบข้อมูลทางพันธุกรรมของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในแอฟริกาใต้ราว 200 ราย ที่มีรายงานตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน โดยอ้างอิงจากฐานข้อมูลระหว่างประเทศ

ซึ่งผลวิเคราะห์พบอัตราการแพร่เชื้อของสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งหมายถึงจำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยจากผู้ป่วยหนึ่งราย สูงกว่าตัวเลขของเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์เดลตา 4.2 เท่า เมื่อวัดจากจังหวัดเกาเต็งของแอฟริกาใต้ที่เชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอนระบาดอย่างหนัก โดยตัวเลขหลังการปรับแก้ยังคงสูงกว่า 2 เท่า
 

ข้อมูลระบุว่าคณะนักวิจัยยังไม่ทราบอัตราการแพร่ระบาดที่แน่ชัดของเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอมิครอน แต่ประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้ในแอฟริกาใต้อยู่ที่ราวร้อยละ 20 เท่านั้น

ก่อนทิ้งท้ายว่าศาสตราจารย์นิชิอุระระบุว่าเชื้อไวรัส สายพันธุ์โอมิครอน อาจเป็นภัยเสี่ยงสูง แม้ในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูง โดยปัจจุบันเขายังคงรอดูข้อมูลสำคัญอื่นๆ อาทิ ความรุนแรงของเชื้อไวรัสฯ และประสิทธิภาพของวัคซีน

 

โควิด โอมิครอน ระบาด

 

ขอบคุณ ซินหัว