- 14 ธ.ค. 2564
ยูทูบเบอร์สายลุย ทำภารกิจ ดำน้ำเจอซากรถเก่า สู่การรื้อคดีเก่าขึ้นมาอีกครั้ง หลังถูกดองแช่แข็งนานกว่า 20 ปี
อีกหนึ่งการค้นพบโดยบังเอิญแต่ตั้งใจ กระทั่งนำพาไปสู่การสอบสวนคดีใหญ่ เมื่อยูทูบเบอร์สายดำน้ำได้ลุยภารกิจตามหาคนหาย กระทั่งค้นพบซากรถเก่าจมอยู่ใต้น้ำ นำไปสู่การไขคดีการหายตัวปริศนาของวัยรุ่น 2 รายเมื่อ 21 ปีก่อน ขณะที่ทางตำรวจในรัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา ได้เร่งทำการสอบสวนเพื่อยืนยันตัวตนของ 2 ศพที่พบอยู่ในรถคันดังกล่าว
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ตามรายงานของ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นระบุว่า ภารกิจดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อ เจเรมี บัว ไซด์ส เจ้าของชาแนล Exploring with the Nug ในเฟซบุ๊ก รู้สึกสะดุดตากับคดีหนึ่งที่ถูกดองไว้มานานกว่า 21 ปี ในฐานข้อมูลคนหาย ซึ่งที่ผ่านมาเขาก็มักจะทำคลิปเกี่ยวกับการดำน้ำตามหาของหายส่งคืนเจ้าของ หรือการตามหาคนหายอยู่แล้ว คดีที่วัยรุ่น 2 คนหายตัวไปพร้อมกับรถนี้จึงสะดุดใจเขามาก
โดยหลังจากตรวจสอบดูสภาพของเมืองที่ทั้ง 2 คนถูกพบเห็นครั้งสุดท้าย เจ้าของชาแนลดัง ก็สังเกตเห็นว่ามีแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่านเมืองดังกล่าว จึงตัดสินใจเดินหน้าคว้าอุปกรณ์ไปลงพื้นที่ในเขตไวท์เคานตี รัฐเทนเนสซี
นอกจากนี้ คลิปการค้นหาครั้งแรกของเขาถูกอัพโหลดในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งภารกิจในครั้งนั้นยังไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวของหนึ่งในผู้สูญหายได้ทราบถึงความพยายามของไซด์สที่จะตามหา จึงแจ้งข้อมูลไปยัง สตีฟ เพจ นายอำเภอของเขตไวท์เคาน์ตี ซึ่งได้ติดต่อไปยังยูทูบเบอร์เพื่อแนะนำเขาให้ลองค้นหาจุดอื่นๆ ตามแม่น้ำคาล์ฟคิลเลอร์ด้วย
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ทั้งนี้ คำแนะนำดังกล่าวนำมาสู่การออกค้นหาครั้งที่ 2 ซึ่งในรอบนี้ไซด์สก็ได้พบเข้ากับรถคันหนึ่งที่จมอยู่ใต้แม่น้ำจริง ๆ ซึ่งในคลิปเขายังบอกว่า “ผมมองหามาทั้งวันแล้ว และในที่สุดผมก็เจอรถ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตไวท์เคาน์ตี เผยว่า หลังได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวจากยูทูบเบอร์รายดังกล่าว เจ้าหน้าที่ก็รีบส่งทีมมาถึงจุดเกิดเหตุในเวลาไม่กี่นาที เพื่อทำการสอบสวนและกู้รถขึ้นจากน้ำ ซึ่งต่อมาสามารถยืนยันได้ว่ารถคันนี้ ตรงกับรถที่ อิริน ฟอสเตอร์ วัย 18 ปี และ เจรีมี บีชเทล วัย 17 ตัว ใช้ขณะหายตัวไปเมื่อปี 2543
แม้การค้นพบจะน่าตื่นเต้น แต่ไซด์สยอมรับว่ามันเป็นข่าวที่น่าเศร้าในเวลาเดียวกัน เพราะนั่นหมายถึงวัยรุ่นทั้ง 2 คนได้เสียชีวิตไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาหวังว่าการค้นพบนี้จะนำความสงบสุขมาสู่ครอบครัวของผู้สูญหายทั้งคู่ได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุตัวตนของศพที่พบในรถได้ในทันที จำต้องมีการส่งไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ รวมถึงเปรียบเทียบบันทึกทางทันตกรรมเสียก่อน จึงสามารถยืนยันได้แน่ชัดว่า 2 ศพในรถ ใช่ศพของวัยรุ่นที่หายไปหรือไม่
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ข้อมูลจาก ซีเอ็นเอ็น