แม่ร้องไห้โฮ เพิ่งขายวัวได้เงินหมื่นประทังชีวิต โดนลูกฉีกทิ้งเป็นซาก

ลูกซนเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับเคสนี้ลูกซนจนทำให้แม่ถึงกับเสียน้ำตาอย่างมาก เมื่อสื่อต่างประเทศได้รายงานเรื่องราวสุดเศร้าของหญิงรายหนึ่ง เธออาศัยในหมู่บ้านซวงซาน ในเมืองซุนอวี้ มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ซึ่งเธอมีสามีและลูกชาย 2 คน วัย 9 ขวบ และ 7 ขวบ ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของเธอเลี้ยงวัว โดยสามีเป็นคนรับผิดชอบดูแล

 

กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ครอบครัวเธอต้องเผชิญกับชะตากรรมครั้งใหญ่ เมื่อสามีของเธอเกิดล้มป่วย ไม่มีแรงเลี้ยงวัว ทำให้เธอต้องกลายเป็นเสาหลัก แบกรับภาระดูแลครอบครัว ทั้งสามีป่วย และลูก 2 คนที่ไม่ปกติ มีความพิการบกพร่องทางสติปัญญาทั้งคู่

 

ด้วยความลำบาก เธอจึงตัดสินใจนำวัวไปขายจำนวน 2 ตัว ได้เงินมา 12,500 หยวน หรือประมาณ 65,000 บาท จากนั้นก็แบ่งเงินออกเป็น 2 ส่วนเพื่อแบ่งเก็บไว้ในที่ต่างๆ ภายในบ้าน ก่อนที่วันหนึ่งเธอได้ออกไปตลาดกับลูกชายคนโต แต่เมื่อกลับมาเธอต้องมาเจอกับภาพที่ทำเธอช็อก

เนื่องจากเมื่อเธอกลับมาบ้าน  แล้วเห็นกองเงินที่ถูกฉีกกระจัดกระจายเกลื่อนบ้าน ซึ่งเป็นเงินส่วนหนึ่งที่เธอแบ่งเก็บไว้จำนวน 6,000 หยวนหรือราว 30,000 บาท เงินที่ยากจะหามากลายเป็นซากไม่เหลือชิ้นดี ทำเอาเธอถึงนั่งทรุดตัวร้องไห้อย่างหนัก

เธอร้องไห้ออกมาเสียงดังอย่างไม่อายใคร ก่อนที่เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียงร้องตกใจ ก็รีบเข้าไปดูนึกว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้น ก่อนจะเหตุภาพสุดเศร้าสะเทือนใจ เพราะเธอสามีนอนป่วยอยู่ขณะที่ภรรยาทรุดตัวลงร้องไห้ โดยมีเศษเงินหยวนกระจายอยู่เต็มพื้น ก่อนจะทราบว่า ลูกเงินฉีกทิ้งหมดไม่เหลือ

ขณะเดียวกัน ตัวแทนคณะกรรมการหมู่บ้านได้โทรศัพท์ไปยังธนาคารท้องถิ่นเพื่อขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งทางหัวหน้าสาขาของธนาคารก็แจ้งว่าอย่าตกใจ ขอให้เก็บเศษเงินไว้ และในวันรุ่งขึ้นให้นำไปที่ธนาคาร จะมีเจ้าหน้าที่ช่วยจัดการ

ในวันถัดมา ทางพนักงานของธนาคารสาขาดังกล่าวก็ช่วยกันระดมกำลังต่อเงินที่ถูกฉีกขาด ราวกับต่อจิ๊กซอว์ ซึ่งต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก พนักงานทำงานหนักเป็นเวลา 2 วัน จนสามารถต่อธนบัตรได้ครบจำนวน 6,000 หยวน ก่อนที่จะโอนเงินเต็มจำนวนให้กับลูกค้า

อย่างไรก็ตาม ด้าน หัวหน้าสาขาธนาคาร ได้ระบุถึงเรื่องนี้ว่า "ธนาคารมีหน้าที่รับผิดชอบแลกเปลี่ยนเงินที่เสียหายให้กับลูกค้า สำหรับสถานการณ์ของครอบครัวนี้ ในฐานะธนาคารท้องถิ่น เราจำเป็นต้องช่วยเหลือและแก้ปัญหาของพวกเขา แม้ว่าเราจะต้องทำงานล่วงเวลามากขึ้น แต่เพื่อแก้ปัญหาของลูกค้า เราก็รู้สึกยินดีในหัวใจ เพราะเราได้ทำสิ่งที่มีความหมาย"

ข้อมูลจาก 163.com