แฉ เดลตาครอน อาจไม่ใช่การกลายพันธุ์ใหม่ แต่เกิดขึ้นจากความผิดพลาด

เดลตาครอน (Deltacron) ที่ทีมนักวิจัยในสาธารณรัฐไซปรัส ได้ตรวจพบเชื้อโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ ที่เป็นการผสมผสานทางพันธุกรรมระหว่างเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา และโอไมครอน นั้นทำให้สหประชาชาติต้องสะพรึงอย่างมาก เนื่องจากกังวลเชื้อโควิดเดลตาครอน จะมีความร้ายกาจกว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา และโอมิครอนหรือไม่ 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุดมีรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายรายได้ออกมาแสดงความกังขาเกี่ยวกับรายงานการพบไวรัสโควิดกลายพันธุ์ครั้งใหม่ที่มีชื่อว่า "เดลตาครอน" ซึ่งบรรดาผู้เชี่ยวชาญมองว่า มีความเป็นไปได้มากกว่าที่การกลายพันธุ์ดังกล่าวจะเกิดจากความผิดพลาดในขั้นตอนการตรวจสอบ

 

จากที่ก่อนหน้านี้ทีมวิจัยของศาสตราจารย์ลีออนดิโอส คอสทริคิส หัวหน้าศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวภาพและไวรัสวิทยาระดับโมเลกุล มหาวิทยาลัยไซปรัส เป็นผู้ค้นพบไวรัสกลายพันธุ์ดังกล่าว ซึ่งทีมวิจัยได้วิเคราะห์ตัวอย่างสิ่งส่งตรวจจำนวน 25 รายการในไซปรัส หลังจัดลำดับพันธุกรรม 1,377 ตัวอย่าง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการติดตามการกลายพันธุ์ของโควิดในไซปรัส 

และได้พบว่าเชื้อไวรัสมีลักษณะทางพันธุกรรมของไวรัสสายพันธุ์เดลตาและไวรัสโอมิครอนอีกบางส่วน อีกทั้ง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ไซปรัสได้อัปโหลดข้อมูลขึ้นสู่จีไอเอสเอไอดี (GISAID) ฐานข้อมูลจีโนมออนไลน์ด้านโรคโควิด 19 ระดับโลกแล้ว

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญมากมายได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการค้นพบดังกล่าว โดย ดร.ครูติกา คัปปัลลี ผู้เชี่ยวชาญด้านโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ทวีตข้อความว่า การค้นพบดังกล่าวน่าจะเกิดจากการปนเปื้อน โดยมีสารพันธุกรรมจากโอมิครอนเข้าไปปะปนกับตัวอย่างสายพันธุ์เดลตา นอกจากนี้เธอยังเสริมว่า “อย่าเอาชื่อโรคระบาดมาผสมกันให้กลายเป็นชื่อใหม่เลย เรื่องนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของดาราจะดีกว่า”

 

อย่างไรก็ตาม ด้าน ดร.ทอม พีค็อก นักไวรัสวิทยาจากอิมพิเรียลคอลเลจลอนดอนก็ได้ทวีตข้อความเช่นกัน โดยระบุว่า การกลายพันธุ์ “เดลตาครอน” ที่ไซปรัสค้นพบและมีการรายงานโดยสื่อหลายเจ้านั้น น่าจะเกิดขึ้นจากการปนเปื้อนอย่างแน่นอน