- 22 ก.พ. 2565
คำสั่งจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพเตรียมส่งทหาร 190,000 นาย บุกยูเครน ขณะที่ยูเครนเรียกร้องให้ตะวันตกเร่งป้องกัน และชาวอเมริกันในรัสเซียได้รับคำเตือนให้เตรียมอพยพเพราะเสี่ยงถูกโจมตี
กลายเป็นเหตุการณ์ที่ต้องจับตามองกันทั่วโลกกันเลยก็ว่าได้ว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตของเรานั้น จะได้เห็นสงครามโลกครั้งที่ 3 กับตาตัวเองหรือไม่ ซึ่งในวันนี้ (22 ก.พ.2565) ทางไทยนิวส์ออนไลน์จะพาไปไล่เรียงเหตุการณ์ระหว่าง รัสเซียและยูเครน โดยจากภายหลังที่ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย สั่งทหารเข้าไปในภาคตะวันออกของยูเครน ตั้งแต่วันจันทร์ หรือเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังเขาลงนามในกฤษฎีการับรองสถานะของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์ หรือ ลูกานสค์ในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน และยังตอกย้ำด้วยสุนทรพจน์เกี่ยวกับความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับสองดินแดนแห่งนี้
โดย ปูตินอ้างว่าการส่งทหารเข้าไปเป็นความพยายามรักษาสันติภาพในสองดินแดน และพูดถึงยูเครนว่า รัสเซียเป็นผู้สร้างขึ้นมาทั้งหมด โดยขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทหารของรัสเซียจะทำหน้าที่อะไรบ้าง
นอกจากนี้ แหล่งข่าวด้านข่าวกรองระบุว่า สหรัฐฯ มีข่าวกรองที่ชี้ว่า มีคำสั่งส่งถึงเหล่าผู้บัญชาการด้านยุทธวิธีและปฏิบัติการข่าวกรอง โดยข่าวกรองนี้เป็นหนึ่งในหลายตัวชี้วัดที่สหรัฐฯ กำลังจับตาเพื่อประเมินว่า การเตรียมการของรัสเซียได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการบุกยูเครนแล้วหรือไม่ แต่ยังไม่พบการเคลื่อนไหวอื่น ๆ เช่น การรบกวนทางอิเล็คทรอนิกส์ กับการโจมตีทางไซเบอร์ แหล่งข่าวเตือนด้วยว่าคำสั่งสามารถถูกเพิกถอนได้ทุกเมื่อ หรืออาจกลายเป็นข้อมูลที่ผิด เพื่อสร้างความสับสนให้สหรัฐฯ และพันธมิตร
ข่าวกรองได้ออกมาไล่เลี่ยกับที่กระทรวงกลาโหมเบลารุส เผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นพลโท วิคเตอร์ แครนิน รัฐมนตรีกลาโหม ยืนยันว่าเบลารุสกับรัสเซียจะขยายเวลาซ้อมรบ ที่เดิมมีกำหนดสิ้นสุดเมื่อวันอาทิตย์ (20 กุมภาพันธ์) ออกไป แต่ไม่ได้ระบุชัดว่าทหารรัสเซียจะอยู่นานเท่าใด องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) ประเมินว่ามีทหารรัสเซียอยู่ในเบลารุส ด้านที่ติดกับพรมแดนทางเหนือของยูเครนราว 30,000 นาย
นอกจากนี้มีภาพที่แสดงให้เห็นขบวนรถหุ้มเกราะลำเลียงพล ปืนใหญ่อัตราจร รถบรรทุกน้ำมัน และรถบรรทุกด้านโลจิสติกส์ พ่นตัวอักษร "Z" ที่บ่งชี้ถึงบทบาทในการ "บุก" ต่างจากปีที่แล้ว ที่ใช้ทาเส้นสีขาวที่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมิตรต่อกองกำลังฝ่ายเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีทหารมากกว่า 130,000 นาย ที่อยู่ด้านปีกตะวันออกของยูเครนกับอีกหลายหมื่่นนาย ที่รวมทีมกับทหารเบลารุสทางภาคเหนือ ซึ่งนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษเตือนว่า แผนบุกของรัสเซียอาจนำไปสู่สงครามที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป นับตั้งแต่ปี 2488 (สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2) เป็นต้นมา
ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดทหารยูเครนกับกองกำลังแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซีย ได้ยิงปืนใหญ่ถล่มใส่กันอย่างดุเดือด ที่สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์กับลูกานสค์ ในภูมิภาคดอนบาสเมื่อวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) ระบุว่า มีการละเมิดการหยุดยิงในภูมิภาคตะวันออกของยูเครน 1,500 ครั้ง เมื่อวันเสาร์วันเดียว สูงที่สุดในปีนี้
โดยข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุว่า รัสเซียมีกำลังทหารพร้อมบุกยูเครนหลายช่องทาง 190,000 นาย และเหล่าผู้บัญชาการภาคพื้นดินของรัสเซียได้รับคำสั่งให้บุกกรุงเคียฟ และพวกเขากำลังอยู่ระหว่างเตรียมแผนด้านยุทธวิธี
ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากมีความเคลื่อนไหวมากมายออกมาจากทางรัสเซียนั้น ทางด้านของ ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ กล่าวถ้อยแถลงเช้าวันนี้ (22 ก.พ.65) ว่า ยูเครน ไม่ได้เป็นหนี้ใคร และจะไม่ยกสิ่งใดให้ใคร อีกทั้งพรมแดนระหว่างประเทศของยูเครนจะยังคงเป็นเช่นเดิม
โดย ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า กลุ่มนอร์มังดี โฟร์ ซึ่งประกอบด้วยเยอรมนี รัสเซีย ยูเครน และฝรั่งเศส จะจัดการประชุมฉุกเฉิน ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ นายแอนโทนี บลิงเกน ประกาศวานนี้ (21 ก.พ.65) ว่า เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่อยู่ในเมืองลวิฟ ของยูเครน ในขณะนี้ จะย้ายไปที่โปแลนด์ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เน้นย้ำให้พลเมืองอเมริกัน ออกจากยูเครน ทันที เนื่องจากสถานการณ์ความมั่นคงในยูเครนยังไม่สามารถคาดการณ์ได้
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้ประณามการกระทำของประธานาธิบดีปูติน ที่ประกาศรับรอง 2 แคว้นดังกล่าวซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนส่วนใหญ่ฝักใฝ่รัสเซีย นอกจากนี้ยังลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี ห้ามไม่ให้ชาวอเมริกัน ทำการค้าและการลงทุนกับสาธารณรัฐประชาชนโดแนตสก์ และลูฮันสค์ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคดอนบาส ของยูเครน
โดย ประธานาธิบดีไบเดน ยังได้หารือกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอมมานูเอล มาครง และนายกรัฐมนตรีเยอรมนี โอลาฟ โชลซ์ เพื่อหาแนวทางตอบโต้การกระทำดังกล่าวของรัสเซียต่อไป
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีมาครง ได้ร้องขอให้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เปิดประชุมด่วน และเรียกร้องให้ชาติยุโรปออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียร่วมกันแล้ว
จากเหตุการณ์ที่ทางไทยนิวส์ออนไลน์นำมาไล่เรียงให้คุณผู้ชมนั้นได้รับฟังก็ต้องบอกว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ทำกระทบกันไปในหลายวงการ รวมทั้งราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงขึ้นหรือจะหุ้นไทยร่วงลงอย่างหนัก ก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดด้วยเช่นกัน