- 03 พ.ค. 2565
คนเป็นแม่แทบล้มทั้งยืน จ่ายเงินค่าบ้านมา 11 ปี ตรากตรำใช้หนี้ เพิ่งรู้ลูกชายยกให้ผู้หญิงอื่น คนเช่าบ้านใกล้กันเห็นใจ หาทางช่วย
แม่แทบเป็นลม จ่ายค่าบ้าน 11 ปี ลำบากใช้หนี้ เพิ่งรู้ลูกชายยกให้ผู้หญิงอื่น กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตกำลังวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อผู้เช่าบ้านรายหนึ่ง ได้โพสต์ลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก 靠北租屋2.0 เพื่อหวังจะหาทางช่วยเหลือคุณป้าเจ้าของบ้าน ซึ่งกำลังจะสูญเสียบ้านที่สู้จ่ายเงินจำนองมา 11 ปี ให้คนอื่นไปแบบฟรีๆ
โดยผู้เช่ารายนี้เผยว่า คุณป้าเจ้าของบ้านที่ตนพักอยู่นั้นเป็นคนใจดีมากๆ หากมีบ้านหลังไหนชำรุดทรุดโทรม ก็จะทำการซ่อมแซมให้ทันทีไม่ชักช้า และถ้าใครพักอาศัยอยู่ในระยะยาวก็จะมีการลดค่าเช่าให้ 500-1,000 เหรียญ หรือ ประมาณๆ 420 - 850 บาท ด้วย บ้านแห่งนี้เคยบริหารจัดการโดยลูกชายของคุณป้า
เนื่องจากตอนนั้นป้าต้องการให้ลูกได้อาศัยอยู่ จึงซื้อบ้านและจดทะเบียนเป็นชื่อของลูกชาย ในขณะที่ตัวเองเป็นคนรับผิดชอบเรื่องการจำนองบ้าน และการจ่ายหนี้สินทั้งหมด ซึ่งเจ้าลูกชายที่ตอนนั้นอายุมากกว่า 35 ปี กลับบริหารจัดการได้แย่มากๆ แถมยังชอบค้างชำระค่าสาธารณูปโภคจนน้ำไฟถูกตัด สร้างความเดือดร้อนแก่กลุ่มผู้เช่าบ้านมาก
หลังจากนัดมาคุยแต่อีกฝ่ายหายเงียบไป ในที่สุดผู้เช่าก็ตัดสินใจติดต่อหาคุณป้าที่เป็นคนซื้อบ้านแทน ซึ่งเมื่อคุณป้ารู้ ก็ได้ยึดสิทธิ์ในการบริการจัดการมาจากลูกชาย และเข้ามาดูแลด้วยตัวเอง ตลอดระยะเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา ผู้เช่าอยู่กันอย่างแฮปปี้ไม่เคยมีปัญหา ทว่าไม่กี่วันก่อน ก็มีผู้หญิงชื่อ แอล โทร. มาแจ้งผู้เช่ารายหนึ่ง บอกว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้าน
และแจ้งว่าสัญญาเช่าที่ทำไว้กับเจ้าของบ้านคนก่อนจะไม่มีผลต่อเนื่อง หากต้องการอยู่ต่อต้องทำสัญญาเช่าฉบับใหม่กับเธอ มิเช่นนั้นต้องย้ายออกภายใน 1 สัปดาห์ ผู้เช่าที่สับสนจึงโทร. ติดต่อไปหาป้าเจ้าของบ้าน กลับกลายเป็นว่าคุณป้าเองก็ไม่รู้เรื่องนี้ เพราะเธอเป็นคนซื้อบ้านและจ่ายเงินจำนอง รวมถึงชำระค่าน้ำค่าไฟต่างๆ ด้วยตัวเองตลอดหลายปีที่ผ่านมา แล้วบ้านจะกลายเป็นของผู้หญิงที่ชื่อ แอล ได้อย่างไร
กระทั่งในที่สุดความจริงก็ปรากฏว่า ลูกชายเจ้าของบ้าน เป็นผู้โอนบ้านหลังดังกล่าวให้แอลด้วยตัวเอง โดยเขากับแอลเคยคบหากัน และฝ่ายชายตั้งใจจะแต่งงานกับเธอ จึงยอมโอนบ้านที่ถูกซื้อเป็นชื่อของตัวเอง ให้แก่ฝ่ายหญิง หลังจากที่มีการซื้อบ้านเพียงไม่ถึง 1 ปี แต่หลังจากนั้นทั้งคู่กลับเลิกรากันไป
เมื่อทราบเรื่อง คุณป้าก็รีบติดต่อไปหาแอล แต่ทางนั้นไม่ยินดีที่จะสื่อสารด้วย ทั้งไม่ยอมรับโทรศัพท์และไม่ยอมมาเจอหน้า อนุญาตให้ติดต่อกันผ่านไลน์เท่านั้น ซึ่งแม้คุณป้าจะอธิบายไปแล้วว่าตัวเองใช้เงินบำนาญทั้งหมดไปกับบ้านหลังนี้ และเป็นคนจ่ายเงินจำนองมาหลายปี แต่แอลกลับไปสนใจ บอกง่ายๆ ว่าถ้าจ่ายหนี้จนหมดแล้ว คุณป้าก็เก็บเงินค่าเช่าต่อไปได้ แต่บ้านนั้นจะไม่คืนให้
โดย หญิงสาวชื่อ แอล ย้ำอีกว่า ตัวเองไม่ได้ขโมยหรือปล้นบ้านหลังนี้มา ลูกของป้าต่างหากที่หวังจะให้เธอดูแลเขาตอนแก่ จึงยกบ้านให้ฟรีๆ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผู้เช่าบ้านคนต่างๆ พากันสงสัย ว่าตอนนี้ลูกชายเจ้าของบ้านหายไปไหน ทำอะไรอยู่ พร้อมบอกเลยว่า เขาเป็นคนอายุ 40 กว่าปีที่ไม่มีความรับผิดชอบเอาซะเลย
ทั้งนี้ คนโพสต์บอกว่าตัวเองเห็นใจป้าเจ้าของบ้านมาก ที่ถูกหลอกให้จ่ายเงินจำนองมานาน 11 ปี การได้เห็นคนแก่วัยเกือบ 70 ปีต้องน้ำตานองหน้า มันเป็นสิ่งที่น่าสงสารมาก และสงสัยจริงๆ ว่าจะมีทางไหนที่สามารถช่วยคุณป้าให้ได้บ้านคืนบ้าง
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตจำนวนมากได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นส่วนหนึ่งมองว่าหากบ้านโอนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก็อาจจะไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว บางคนยังแนะนำให้ลองนำเรื่องไปปรึกษาทนายดู ขณะที่หลายคน พบว่าคนบางส่วนยังติดใจสงสัยเรื่องการทำธุรกรรม ว่าดำเนินการอย่างถูกต้องหรือไม่ หลายคนสงสัยว่าถ้ามีการจำนองอยู่จะโอนบ้านได้ยังไง ขณะที่บางคนเชียร์ให้ยกบ้านแก่แอลไปเลย แล้วก็ให้ธนาคารไปเรียกเก็บเงินจำนองจากอีกฝ่ายต่อ
ข้อมูลจาก ETtoday