WHO ยันฝีดาษลิงยังไม่กลายพันธุ์ ตอบชัดจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันมั้ย

อนามัยโลกยืนยันว่าการระบาดของฝีดาษลิงที่กระจายใน 16 ประเทศยังสามารถควบคุมได้ไม่ต้องฉีดวัคซีน ยันยังไม่กลายพันธุ์

WHO ยันฝีดาษลิงยังไม่กลายพันธุ์ ตอบชัดจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันมั้ย โควิดยังไม่หมดไป โรคเก่าอย่างฝีดาษก็กลับมาระบาดอย่างหนักอีกครั้ง ซึ่งล่าสุดตามรายงานของอนามัยโลกยืนยันว่าการระบาดของฝีดาษลิงที่กระจายใน 16 ประเทศยังสามารถควบคุมได้ ยังไม่พบว่าเชื้อกลายพันธุ์ และไม่จำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิงครั้งใหญ่

 

WHO ยันฝีดาษลิงยังไม่กลายพันธุ์ ตอบชัดจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันมั้ย

โดย พญ.มาเรีย แวน เคิร์กโฮฟ หัวหน้าฝ่ายโรคอุบัติใหม่ขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงเมื่อวันจันทร์เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในหลายประเทศขณะนี้ว่า เป็นการแพร่ระบาดที่ต้องมีการสัมผัสใกล้ชิดอย่างมาก ไม่เหมือนกับโควิด-19 และอาการไม่รุนแรง จึงเชื่อว่าเป็นสถานการณ์ที่ควบคุมได้ 

 

ตามรายงานระบุว่า ขณะนี้พบผู้ป่วยยืนยันและผู้ต้องสงสัยติดเชื้อเกือบ 200 คน ใน 16 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในทวีปยุโรป และยังพบในอเมริกาและออสเตรเลีย ทั้งที่ปกติแล้วโรคชนิดนี้มักพบการระบาดในแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก  และคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้นอีก แต่ความเสี่ยงแพร่กระจายสู่ประชาชนในวงกว้างยังอยู่ในระดับต่ำ 

WHO ยันฝีดาษลิงยังไม่กลายพันธุ์ ตอบชัดจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันมั้ย

นอกจากนี้โรซามุนด์ ลูอิส หัวหน้าแผนกโรคไข้ทรพิษของ  WHO ระบุว่าโรคฝีดาษลิงเกิดจากการติดเชื้อของไวรัสที่มีจีโนมเป็น DNA ซึ่งมีอัตราการกลายพันธุ์ต่ำกว่าไวรัสที่มีจีโนมเป็น RNA และขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานบ่งชี้ว่ามีการกลายพันธุ์ในโรคฝีดาษลิงที่ระบาดในขณะนี้

 

ส่วนเดวิด เฮย์มานน์ อดีตหัวหน้าฝ่ายสถานการณ์ฉุกเฉินของ  WHO กล่าวว่า ทฤษฎีที่อาจอธิบายการแพร่ระบาดของฝีดาษลิงในประเทศพัฒนาแล้วนอกทวีปแอฟริกา อาจมาจากพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มชายรักชายและกลุ่มชายไบเซ็กชวล ในงานเทศกาลสำคัญ 2 งาน ในสเปนและเบลเยียม แตกต่างจากการระบาดในทวีปแอฟริกาที่มักพบในสัตว์ และไม่เคยแพร่ออกนอกภูมิภาค

WHO ยันฝีดาษลิงยังไม่กลายพันธุ์ ตอบชัดจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันมั้ย


ขณะเดียวกัน ริชาร์ด พีบอดี หัวหน้าฝ่ายจุลินทรีย์ก่อโรคของ  WHO ประจำยุโรป เปิดเผยว่าการระบาดของฝีดาษลิงยังไม่จำเป็นต้องมีการระดมฉีดวัคซีนป้องกันครั้งใหญ่ เพียงแค่รักษาสุขอนามัยที่ดี และมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ก็ช่วยควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว อีกทั้งขณะนี้มีวัคซีนป้องกันโรคไข้ทรพิษหรือโรคฝีดาษ และยาต้านไวรัสในปริมาณจำกัดอย่างมาก


อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงโดยตรง แต่วัคซีนป้องกันโรคไข้ทรพิษมีประสิทธิภาพป้องกันได้ถึง 85% และขณะนี้สหรัฐฯ กำลังเตรียมนำวัคซีน Jynneos ที่ใช้รักษาโรคไข้ทรพิษมาใช้รักษาโรคฝีดาษลิง ส่วนเยอรมนีก็เตรียมพิจารณาเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันเช่นกัน และอังกฤษเสนอฉีดวัคซีนให้กับบุคลกรทางการแพทย์

WHO ยันฝีดาษลิงยังไม่กลายพันธุ์ ตอบชัดจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันมั้ย
ภาพจาก เนชั่นทันโลก NTV World News