คู่รักตกใจโรงแรมม่านรูดชื่อดังไต้หวัน แอบติดกล้องรูเข็มไว้ภายในห้องพัก

แฉโรงแรมม่านรูดชื่อดังไต้หวัน แอบติดกล้องรูเข็มไว้ภายในห้องพัก หากไม่ใช่บ้านตัวเองก็คงไม่ใช่เซฟโซนที่แท้จริงๆ เมื่อชาวเน็ตรายหนึ่งออกมาแฉโรงแรมม่านรูดชื่อดังในนครเกาสง ของไต้หวัน เนื่องจากพบว่ามีการแอบติดกล้องรูเข็มไว้ภายในห้องพัก ทำให้เธอกับสามีรู้สึกเครียดและหวาดผวา แต่หลังแจ้งเรื่องไปยังพนักงานโรงแรม กลับถูกขู่ไม่ให้ทำเป็นเรื่องใหญ่ โดยบอกว่ามีเจ้านายใหญ่เป็นคนมีตำแหน่งถึงอัยการ พร้อมเสนอชดเชยให้เป็นส่วนลดกับการอัพเกรดห้องแค่นั้น

โดยหญิงสาวรายดังกล่าว ได้โพสต์คลิปลงกลุ่มเฟซบุ๊ก เป็นภาพขณะที่ชายคนหนึ่งพยายามใช้ไฟส่องไปยังรูเล็กๆ ที่อยู่บริเวณตู้ที่วางโทรทัศน์ ซึ่งจะพบว่ารูด้านขวานั้นมีการขันน็อตไว้ ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เมื่อส่องไฟเข้าไปในรูด้านซ้าย กลับพบว่ามีเลนส์กล้องอยู่ งานนี้ทำเอาชาวโซเชียลที่ได้้ห็นเรื่องราวดังกล่าวถึงกับตกใจไม่น้อย 

 

อีกทั้งหญิงรายนี้ยังเปิดเผยอีกว่า เธอกับสามีเข้าไปพักในโรงแรมม่านรูดชื่อดัง ในเขตเซียวกันของเกาสง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 31 พฤษภาคม ซึ่งในตอนนั้นยังมีคู่รักอื่นๆ อีก 2 คู่พักอยู่ในโรงแรมด้วย ทว่าตอนที่เธอไปอาบน้ำ สามีของเธอกลับสังเกตเห็นว่ารูเล็กใกล้ๆ และโทรทัศน์นั้นดูแปลกๆ จึงลองใช้ไฟส่องเข้าไปดู กระทั่งว่ามีกล้องรูเข็มซ่อนอยู่

ด้วยอารามความตื่นตระหนกตกใจ ทำให้เธอกับสามีรีบแจ้งให้พนักงานที่เคาน์เตอร์ให้รับทราบโดยทันที ซึ่งทางพนักงานก็แจ้งเรื่องให้หัวหน้าทราบ แต่หลังจากนั้นเมื่อทางหัวหน้าเข้ามาในห้องพัก ก็ยังอ้างว่าไม่ใช่รูกล้องแอบถ่าย 

ทั้งนี้ เจ้าของโพสต์ชี้ว่า เธอไม่รู้เลยว่ามีคู่รักกี่คู่ หรือกี่ครอบครัวที่ถูกแอบถ่ายไปโดยไม่รู้ตัว สุดท้ายทางโรมแรมก็แค่มอบส่วนลดให้ 20% และจะอัพเกรดห้องพักให้ พร้อมกันนั้นยังขู่ว่า นายใหญ่ของพวกเขาเป็นอัยการ ไม่ให้พวกเธอทำให้เป็นปัญหาใหญ่โต เมื่อเจอเรื่องแบบนี้เข้าไปทำให้เธอแทบไม่กล้านอน รู้สึกเหมือนจะถูกสอดส่องอยู่ตลอดเวลา

ขณะเดียวกัน ชาวเน็ตต่างก็ตกใจกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งบางคนบอกว่า ควรจะแจ้งตำรวจมากกว่าแจ้งพนักงานในโรงแรม นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตบางคนแนะนำให้ตรวจสอบห้องพักดีๆ ก่อนเข้าพักเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ถูกใครแอบถ่าย

อย่างไรก็ตาม หลังปรากฏเป็นข่าว ทางม่านรูดก็ยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นพบว่าห้องที่มีกล้องซ่อนอยู่ มีเพียงห้องที่ปรากฏเป็นข่าวเท่านั้น ซึ่งทางเจ้าของโรงแรมอ้างว่า อาจจะเป็นฝีมือของแขกที่เคยเข้าพักในห้องดังกล่าว นำกล้องมาติดไว้